โต้ซาอุฯวิกฤต ! รมต.ใหม่ตอบคดีฆ่านักข่าว คาช็อกกี ตามหลอกหลอน
โต้ซาอุฯวิกฤต – เมื่อ 28 ธ.ค. เอเอฟพี รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ อิบราฮิม อัล-อัสซาฟ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของราชอาณาจักร ซาอุดีอาระเบีย ถึงการรับหน้าที่แก้ไขวิกฤตภาพลักษณ์อันเสียหายครั้งใหญ่ของประเทศ หลังเกิดคดีสังหาร นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ และคอลัมนิสต์ วอชิงตันโพสต์ ภายในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2561
“ประเด็นจามาล คาช็อกกี เป็นเรื่องที่ทำให้เราทั้งหมดเศร้าเสียใจจริงๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวล เราไม่ได้ฝ่าวิกฤต เราเพียงผ่านขั้นตอนของการปฏิรูป” นายอัสซาฟ กล่าวถึงการปฏิรูปทางสังคม และเศรษฐกิจที่มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงขับเคลื่อนประเทศ
นายอิบราฮิม อัล-อัสซาฟ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของซาอุดีอาระเบีย Ibrahim al-Assaf, the new Saudi foreign minister, speaks to AFP at his residence in the Saudi capital Riyadh, on December 28, 2018. (Photo by Ahmed FARWAN / AFP)
มกุฎราชกุมารเผชิญกับการกดดันอย่างหนักหน่วงจากประชาคมโลก จากคดีสังหารนายคาช็อกกี หลังจากการสอบสวนของตุรกีพุ่งเป้าไปว่า การสังหารนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้หากไม่ได้คำสั่งหรือไฟเขียวจากบุคคลระดับพระองค์ ซึ่งผลกระทบจากคดีนี้ทำให้ซาอุฯ ตกอยู่ในสถานะย่ำแย่ทางการทูต
สำหรับนายอัสซาฟ เคยเป็นรมว.คลัง และเคยถูกจับในกรุงริยาดเมื่อปีก่อน ระหว่างการกวาดล้างคอร์รัปชั่น แต่ครั้งนี้มารับหน้าที่สำคัญแทนนายอเดล อัล-จูเบอีร์ รมว.ต่างประเทศ ที่ถูกย้ายลดชั้นไปเป็นรัฐมนตรีแห่งรัฐว่าด้วยกิจการต่างประเทศ ตามพระราชบัญชาของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน
FILE – แฟ้มภาพ มกุฎราชกุมารตรัสกับคิงซัลมาน พระราชบิดา. (Saudi Press Agency via AP)
แฟรงก์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี วิเคราะห์ ถึงการปรับลดบทบาทของนายจูเบอีร์ ว่า การที่เหตุสังหารเข้าไปเกิดในสถานกงสุล หน่วยงานในความรับผิดชอบโดยตรงของกระทรวงต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องดำเนินการบางอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า การโยกย้ายนายจูเบอีร์ไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีแห่งรัฐถือเป็นการลดตำแหน่งอย่างเห็นได้ชัด และยังถูกหักหน้าด้วยการแต่งตั้งนายอัสซาฟซึ่งไม่มีประสบการณ์ด้านนโยบายต่างประเทศมาก่อนอีกด้วย
……………..
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
