แย้ม “ประกาศภาวะฉุกเฉิน” ทรัมป์ขู่ลากยาว “ชัตดาวน์” จนกว่าจะได้งบสร้าง “กำแพง”

แย้ม “ประกาศภาวะฉุกเฉิน” – เมื่อวันที่ 5 ม.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระดับวิกฤตในสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลให้หน่วยงานกลางของรัฐบาลกลางบางส่วนต้องปิดตัวลง หรือชัตดาวน์ มาตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์สมาสปีที่แล้ว

ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวข่มขู่ว่าจะปล่อยให้สถานการณ์ชัตดาวน์ยืดเยื้อต่อไปนานนับปี ตราบใดที่พรรคโดโมเครติก หรือเดโมแครต ซึ่งเป็นฝ่ายค้านและครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสหลังการเลือกตั้งมิดเทอม จะยอมจัดสรรงบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท มาใช้สร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพ

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า อาจตัดสินใจประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ทั่วประเทศ ซึ่งตามกฎหมายนั้นให้อำนาจการบริหารตกเป็นของประธานาธิบดีอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อนำเงินของงบประมาณกลางมาใช้ในโครงการสร้างกำแพงดังกล่าวตามที่ตนเคยหาเสียงไว้เพื่อครั้งแข่งขันเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ

สถานการณ์ชัตดาวน์ที่เกิดขึ้นกินเวลามานานถึง 3 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่รัฐต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รับค่าจ้างกว่า 8 แสนคน สังกัดกระทรวง 9 แห่งของสหรัฐ บรรดาผู้แทนระดับสูงของพรรครีพับลิกันและเดโมเครติกยังอยู่ระหว่างเจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น

ขณะที่พรรคเดโมแครตนั้นยังยืนยันจะไม่อนุมัติงบเพื่อสร้างกำแพงของนายทรัมป์เด็ดขาด พร้อมลงมติให้ผู้นำสหรัฐลงนามในร่างงบประมาณเพื่อยุติการชัตดาวน์ที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าจะถูกนายทรัมป์ใช้อำนาจวีโต้ล้มมติ และวุฒิสภาซึ่งมีพรรครีพับลิกันขัดขวาง

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า “ก็อาจจะทำนะ ผมอาจประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วก็ให้สร้างกำแพงเลยจะได้เสร็จเร็วๆ มันก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง” และว่า “ผมภูมิใจกับสิ่งที่กำลังทำมากเลย ผมไม่เรียกว่าการชัตดาวน์หรอก ผมเรียกว่า การทำสิ่งที่ต้องทำเพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของชาติ”

วันเดียวกัน ยังเกิดกระแสฮือฮาหลังการเข้าสาบานตนรับตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรรัฐมิชิแกนของนางราชีดา ทีเลียบ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่าจะดำเนินการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่งเป็นเรื่องแรก นายทรัมป์ก็ทวีตตอบโต้ทันทีว่า “คุณจะถอดถอนประธานาธิบดีที่มาจากการชนะการเลือกตั้ง อาจจะเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาได้ยังไง” พร้อมยั่วยุว่า “เดโมแครตอยากจะถอดถอนผมมากก็เพราะรู้ว่าเลือกตั้งผู้นำครั้งหน้าในปี 2563 จะแพ้ล่ะสิ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน