เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เจ้าหน้าที่มาเลเซียนำตัวสองสาวผู้ต้องหาวางยาพิษนายจองนัม กลางสนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ขึ้นศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาฆาตกรรม
ท่ามกลางการอารักขาอย่างเต็มกำลัง มีรถตู้ตำรวจคุมเข้มด้วยขบวนรถ 20 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจถืออาวุธหนักกว่า 100 นาย ทั้งหมดสวมคลุมศีรษะ คอ เหลือไว้ก็แต่หน้า มาถึงที่ทำการของศาลเซปัง นอกกรุงกัวลาลัมเปอร์
ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้แก่ น.ส.ดวน ธิ ฮวง ชาวเวียดนาม อายุ 28 ปี กับนางสิตี ไอสยาห์ ชาวอินโดนีเซีย อายุ 25 ปี ถูกนำตัวมาขึ้นศาลโดยใส่เสื้อตัวเดียวกับที่ถูกถ่ายรูปบันทึกประวัติ นอกจากนี้ยังใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ถูกใส่กุญแจมือ แวดล้อมด้วยสื่อและตำรวจ ทั้งสองมีสีหน้าเครียด โดยเฉพาะสาวเวียดนามที่มีสีหน้าไม่สู้ดี
จากนั้นศาลแจ้งข้อกล่าวหาฆาตกรรม ซึ่งหากตัดสินว่ามีความผิดจริง โทษสูงสุดคือประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
เบื้องต้นนี้ สองสาวต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยทนายของสาวเวียดนามกล่าวว่าลูกความให้การต่อศาลว่า ดิฉันไม่ผิด และว่าลูกความประหม่าเพราะกำลังเผชิญกับข้อหาฆ่าคนตาย หลังจากเคยให้ปากคำว่า ถูกลวงให้คิดว่าเข้าร่วมในรายการล้อกันเล่นทางทีวีที่มีกล้องแอบถ่ายอยู
ส่วนสาวอินโดนีเซียเปิดเผยผ่านนักการทูตอินโดนีเซียว่าตนเองได้ค่าจ้าง 3,000 บาทในการป้ายของเหลวที่มีลักษณะเหมือนเบบี้ออยล์ใส่ใบหน้านายจองนัม
เหตุการณ์การลอบสังหารเมื่อวันที่ 13 ก.พ. สะเทือนขวัญไปทั่วโลก เนื่องจากเกิดกลางสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน จากนั้นเขย่าขวัญยิ่งขึ้นเมื่อมาเลเซียตรวจสอบว่าพิษที่สังหารนายจองนัมเป็นอาวุธเคมีวีเอ็กซ์ สารต้องห้ามตามบัญชีของสหประชาชาติ ด้านอัยการเปิดเผยว่าคงจะใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่กระบวนการไต่สวนคดีจะเริ่มต้น