เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่าศาลนครซินจูแห่งไต้หวัน ตัดสินให้น.ส.ซู วัย 35 ปี ผู้เป็นหญิงรักหญิง จ่ายชดใช้เงินอดีตสามี 500,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือเกือบ 570,000 บาทเป็นค่าเสียหายให้ฝ่ายชาย ในส่วนค่าธรรมเนียมงานวิวาห์ เงินหมั้นหมาย ความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่ฝ่ายชายประสบ กรณีหญิงสาวเจตนาแต่งงานเพื่อตบตาพ่อแม่ จากนั้นทิ้งสามีไปอยู่กับแฟนสาว

ภาพยนตร์เรื่องหญิงรักหญิงของไต้หวัน Make Up (2011)

น.ส.ซูแต่งงานกับสามีเมื่อเดือนม.ค.2559 หลังจากนั้นสองสามวันต่อมาก็ทิ้งสามีไป การตัดสินคดีนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนในสังคม เพราะไต้หวันอยู่ระหว่างพิจารณาการแต่งงานของเพศเดียวกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

คนในสังคมออนไลน์ส่วนหนึ่งเขียนสนับสนุนจำเลยหญิง เพราะเห็นว่าเรื่องนี้มีที่มาว่าครอบครัวฝ่ายหญิงคัดค้านความรักกับผู้หญิง และเร่งให้แต่งงานกับผู้ชาย บ้างก็ว่าการตัดสินนี้เป็นอาการของโรคกลัวคนที่รักเพศเดียวกัน แต่ก็วิจารณ์ฝ่ายหญิงด้วยเช่นกันว่าไม่ควรแก้ปัญหาโดยการลากฝ่ายชายมาแต่งงานด้วย

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการแต่งงานของคนเพศเดียวกันมีกำหนดวาระพิจารณาเป็นรอบสุดท้ายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไต้หวันกลายเป็นที่แรกในภูมิภาคเอเชียที่ทำให้การแต่งงานของเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย

เจนนิเฟอร์ จาง – แซม ฉิว เข้าพิธีแต่งงาน

สำหรับการแต่งงานระหว่างหญิงรักหญิงในไต้หวันเพิ่งเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว จากคู่ของพนักงานหญิงของธนาคารเอชเอสบีซี เจนนิเฟอร์ จาง และแซม ฉิว สาวคนรัก หลังจากทั้งคู่คบหากันมานานถึง 11 ปี เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ตรงกับวันสตรีสากล

ในงานแต่งดังกล่าว พ่อแม่ของเจนนิเฟอร์ไม่มาร่วม ทำให้นายจอห์น หลี่ ซีอีโอของธนาคารเอชเอสบีซี ออกโรงเป็นผู้เดินนำเจ้าสาวมาส่งที่ปรัมพิธีให้แทน เจนนิเฟอร์เผยว่า ตนเองก็เคยพยายามเป็นลูกที่ดีตามใจพ่อแม่ด้วยการออกเดตกับผู้ชาย หรือแม้กระทั่งคิดจะแต่งงานกับผู้ชายเพื่อให้พ่อแม่สบายใจมาแล้ว แต่ยังดีที่ไม่ทำเช่นนั้น หลังพ่อแม่มีท่าทีอ่อนลงกับหญิงคนรักของตน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน