เมื่อ 17 มี.ค. บีบีซีรายงานว่า เกิดกระแสวิจารณ์การทำงานของตำรวจประจำสนามบินนานาชาติโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ จากกรณีตัดสินใจยิงสุนัขตัวน้อนที่กำลังเข้าฝึกเป็นหน่วยดมกลิ่นรักษาความปลอดภัยจนตาย ภายหลังหลุดจากสายจูง และวิ่งหนีไปทั่วสนามบิน
ชาวนิวซีแลนด์พากันตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการใช้ความรุนแรงกับสุนัขตัวดังกล่าว ขณะที่บรรดานักท่องอินเตอร์เน็ตแสดงความคิดเห็นต่อต้านเจ้าหน้าที่อย่างดุเดือดอย่างหนัก
นายไมก์ ริชาร์ดส์ โฆษกสำนักงานความปลอดภัยทางการบินของนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเจ้าหน้าที่กำลังนำสุนัขหน่วยดมกลิ่นที่ชื่อ กริซซ์ วัย 10 เดือน ขึ้นรถกระบะซึ่งจอดอยู่นอกเขตการบินของสนามบินโอ๊คแลนด์ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้สุนัขหลุดจากเชือกที่ล่ามเอาไว้
จากนั้นวิ่งผ่านช่องทางที่เปิดสำหรับให้รถเข้าไปยังเขตการบิน และวิ่งต่อไปจนถึงรันเวย์ จนเป็นเหตุให้เที่ยวบิน 6 เที่ยวต้องล่าช้าออกไป 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่อ้างว่า พยายามทุกวิธีแล้ว ทั้งใช้อาหาร ของเล่น และสุนัขตัวอื่นๆ มาดึงความสนใจสุนัขออกจากพื้นที่ควบคุม แต่ไม่เป็นผล เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงสุนัขตัวกล่าว สาเหตุที่ต้องใช้ปืนกระสุนจริงยิงสุนัขแทนที่จะเป็นกระสุนยาสลบนั้น เป็นเพราะสนามบินไม่มีปืนยิงยาสลบ
คำอธิบายดังกล่าวยิ่งทำให้ผู้คนรวมถึงกลุ่มสิทธิสัตว์พากันโกรธและตำหนิตำรวจยิ่งไปกว่าเดิมว่า สุนัขต้องตายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีปืนยิงลูกดอกยาสลบ
