เมื่อวันที่ 19 เม.ย. บีบีซีรายงานว่านายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ใช้โอกาสการประชุมประจำปีของเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า เอฟ8 ดีเวลลอปเปอร์ กล่าวไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายโรเบิร์ต ก็อดวิน วัย 74 ปี ที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมขณะที่ฆาตกรกำลังไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันอีสเตอร์ ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
“ขอส่งจิตของพวกเราไปยังครอบครัวและเพื่อนของนายโรเบิร์ต ก็อดวิน ซีเนียร์ ” พร้อมกันนี้นายซัคเคอร์เบิร์กยังกล่าวอีกว่า “เรามีงานต้องทำอีกมากและเราจะต้องคอยทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก ”
นาทีก่อเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทางเฟซบุ๊กใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมงในการนำคลิปดังกล่าวออกจากระบบหลังจากมีการโพสต์วิดีโอ อย่างไรก็ตามทางตำรวจของคลีฟแลนด์ได้พูดถึงบทบาทของเฟซบุ๊กกับคดีฆาตกรรมดังกล่าว
“ผมคิดว่าผู้คนที่อยู่บนโลกโซเชี่ยลเป็นพวกที่รู้ถึงพลังของโซเชี่ยลมีเดียและผมคิดว่าพวกเขารู้ว่าสามารถก่อเหตุร้ายได้ เราเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าคนไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกโซเชี่ยลและไว้ใจโซเชี่ยลมีเดียและต้องไม่ก่อเหตุทำร้ายใครผ่านโซเชี่ยล” นายเคลวิน วิลเลี่ยมส์ สารวัตรตำรวจคลีฟแลนด์กล่าว
นายจีออฟ เบลเบอร์ จากซีซีเอสอินไซด์ซึ่งเป็นบริษัทด้านให้คำปรึกษาและเป็นนักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี มองว่าเฟซบุ๊กยังมีปัญหาใหญ่ในด้านเอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์อีกมากให้แก้ไขในระยะยาว
ทั้งนี้ นายสตีเฟ่นใช้อาวุธปืนยิงฆ่าตัวตายขณะขับรถหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจเข้าไปในเมืองอีรี รัฐเพนซิลเวเนีย ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคลีฟแลนด์ไปทางตะวันออก 161 ก.ม.
