เมื่อ 21 เม.ย. ยาฮูนิวส์รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการให้กองทัพนำกำลังประชิดชายแดนติดประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อรับมือกับการไหลทะลักของผู้อพยพที่จะหนีตายข้ามพรมแดนหากเกิดการโจมตีเกาหลีเหนือในช่วงที่ความขัดแย้งยังคงตึงเครียด แม้กองเรือพิฆาตของกองทัพสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนทิศทางจากเกาหลีเหนือไปยังมหาสมุทรอินเดียแล้วก็ตาม

ขณะที่หลายฝ่ายวิตกว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสัญญาณชี้ว่าสถานการณ์อาจไม่สู้ดีนัก เพราะทางการจีนเพิ่งส่งทหารกว่า 150,000 นายไปประจำการในพื้นที่ชายแดนติดเกาหลีเหนือ

คลิปวิดีโอขบวนรถไฟซึ่งเชื่อว่าบรรทุกอาวุธ และกำลังทหารไปยังเมืองวลาดิวอสต็อก ซึ่งมีพรมแดนติดเกาหลีเหนือเป็นระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร

อีกคลิปแสดงให้เห็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพรัสเซียบินไปยังชายแดนเช่นเดียวกับรถถังและยานพาหนะทางการทหารอีกจำนวนหนึ่ง

ด้านพลจัตวาอเล็กซานเดอร์ กอร์เดเยฟ โฆษกกองทัพรัสเซีย ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงเหตุผลในการส่งกองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังชายแดน แต่ระบุว่าการซ้อมรบในพื้นที่ทรานส์ไบคาน เขตสหพันธ์ไซบีเรีย เสร็จสิ้นแล้ว หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าการลำเลียงกำลังพลไปยังวลาดิวอสต็อกน่าจะเกี่ยวกับกรณีเกาหลีเหนือ

ขณะที่นายคอนสแตนติน แอสโมลอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ กล่าวว่าถ้าสหรัฐยิงขีปนาวุธโจมตีศูนย์พัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ กลุ่มเมฆกัมมันตรังสีจะแพร่กระจายสู่วลาดีวอสตอคภายใน 2 ชั่วโมง

 

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันพุธที่ 19 เม.ย. ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติลงมติไม่เห็นชอบกับแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนือของสหรัฐ ซึ่งมีสาระสำคัญตำหนิว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน