สกัดวุ่นอุ้มเจ้าสัวจีนรวยอันดับ6 เผยชีวิตตรากตรำกว่าจะล่ำซำ
สกัดวุ่นอุ้มเจ้าสัวจีนรวยอันดับ6 – วันที่ 15 มิ.ย. เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า เกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปภายในคฤหาสถ์หรูเพื่อลักพาตัวเจ้าสัวผู้ร่ำรวยที่สุดอันดับ 6 ของประเทศ ที่เมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง แต่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าสกัดคนร้ายและช่วยเหลือไว้ได้ทันควัน
เจ้าสัวเหอ เสียงเจี้ยน อายุ 77 ปี เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Midea Group หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 7.7 แสนล้านบาท โดยนิตยสารฟอร์บส์จัดให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดอันดับ 6 ของจีน
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงพลบค่ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย. โดยตำรวจได้รับโทรศัพท์จากนายเหอ เจี้ยนเฟิง บุตรชายคนเดียวอายุ 55 ปี ของเจ้าสัวที่หลบหนีออกมาจากคฤหาสน์และว่ายน้ำข้ามแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ มาเพื่อโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ เมื่อเวลา 17.30 น.
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมคฤหาสถ์และออกตระเวนค้นหาทั่วพื้นที่รีสอร์ตสนามกอล์ฟ รอยัล ออคิด อินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟ วิลล่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์เจ้าสัว และโครงการของ Midea Group กระทั่งสามารถจับกุมทีมคนร้ายได้ทั้งหมด 5 คน เมื่อเวลาตี 5 ของวันถัดมา
แถลงการณ์ของสำนักงานตำรวจเมืองฝอซาน ระบุว่า เจ้าสัวเหอนั้นปลอดภัยแล้ว และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายนั้นพบว่ามีอาวุธเป็นวัตถุระเบิดด้วย แต่ตำรวจสามารถหยุดยั้งไว้ได้
ด้าน Midea Group ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์จริง และขอบคุณบรรดาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ช่วยกันเผยแพร่ข่าวในโลกออนไลน์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เจ้าสัวเหอ ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยได้ออกสื่อนั้นกลายเป็นบุคคลโด่งดังและได้รับความสนใจจากชาวจีนขึ้นมาทันที ไม่เหมือนกับนายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group และนายโพนี หม่า หัวเถียง ผู้ก่อตั้ง Tencent Group ที่เป้นที่รู้จักกว้างขวาง
เผยชีวิตปากกัดตีนถีบกว่าจะล่ำซำ
สำหรับประวัติของเจ้าสัวเหอ เป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีรุ่นแรกของตระกูล เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น นำไปสู่การก่อตั้ง Midea Group เมื่ออายุได้ 26 ปี จนปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ถึง 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
นายเหอจบการศึกษาเทียบเท่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน โดยนายเหออาศัยทำงานในโรงงานและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในเขตปักเจียว ของเมืองฝอซาน ซึ่งถือว่าเป็นถิ่นทุรกันดาร มีรายได้แทบไม่เพียงพอต่อการยังชีพ และแทบไม่มีตำแหน่งงานให้สมัคร ส่งผลให้นายเหอ พยายามคิดหาหนทางสร้างอุตสาหกรรมท้องถิ่นขึ้นมาเอง
ต่อมาในปี 2511 นายเหอ พร้อมชาวบ้านอีก 23 คน ระดมเงินรวมกันได้ 5,000 หยวน และเริ่มผลิตฝาปิดขวดน้ำพลาสติกส่งตลาดชุมชน ถือเป็นการเริ่มธุรกิจที่เสี่ยงมาก เนื่องจากรัฐบาลจีนในสมัยนั้นไม่มีนโยบายส่งเสริมนักธุรกิจท้องถิ่น
นายเหอพยายามลดต้นทุนทางธุรกิจด้วยการประหยัดอดออม โดยดื่มน้ำเปล่าผสมน้ำตาลแทนอาหารเช้าทุกวัน และอาศัยนอนหลับตามชานชาลารถไฟ เวลาต้องเดินทางไปเจรจาธุรกิจตามตลาดหลายแห่งทั่วประเทศ
ธุรกิจของนายเหอ เริ่มขยายตัวหลังนายเหอ พยายามเพิ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เข้ามาในสายการผลิต ไม่ว่าจะเป็นแก้ว อุปกรณ์ประดับยนต์ และเครื่องปั่นไฟ กระทั่งยอดขายพุ่งกระฉูดจากกระแสความนิยมพัดลมไฟฟ้าในช่วงปี 2513 โดยผู้เดินทางมาจากฮ่องกง และมาเก๊านิยมซื้อกลับไปฝากทางบ้าน
ต่อมาในปี 2524 นายเหอจึงตั้งชื่อโรงงานผลิตพัดลมไฟฟ้าของตัวเองว่า Midea และเปลี่ยนไปผลิตเป็นพัดลมไฟฟ้าจากพลาสติกแทนเป็นรายแรกๆ ในจีน ทำให้ Midea ยึดครองส่วนแบ่งในตลาดในจีนได้จำนวนมาก นำไปสู่การต่อยอดผลิตเครื่องปรับอากาศในปีต่อมา
การก้าวกระโดดทางธุรกิจเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2531 หลัง Midea ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีนให้ส่งออกเครื่องปรับอากาศไปขายต่างประเทศได้ จนปีนั้น Midea มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด นำไปสู่การขยายตัวทางธุรกิจด้านอื่นๆ
ปี 2551 Midea ว่าจ้าง กงลี่ นักแสดงหญิงชื่อดังก้องโลกของจีน ฉายา ราชินีแห่งวงการภาพยนตร์จีน เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
และแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่นครเสิ่นเจิ้นในปี 2536 กลายเป็นธุรกิจท้องถิ่นของจีนบริษัทแรกที่ได้จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์
เจ้าสัวเหอ เกษียณจากการทำงานตรากตรำเมื่อปี 2555 โดยครอบครัวตระกูลเหอยังคงมีสัดส่วนหุ้นใน Midea Group ถึงหนึ่งในสาม และเป็นเจ้าของบริษัทลูกอีกอย่างน้อย 6 แห่งของเครือ เช่น Midea Properties ในฮ่องกง และ Kuka เอกชนด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในประเทศเยอรมนี