เจนีวา – เดอะการ์เดียน รายงานว่า นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์จะกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ แต่ตัวเลขสูงสุดในโลก ปีละ 49,000 ฟรังก์สวิส (เกือบ 1.7 ล้านบาท) หรือตกเดือนละราว 4,086 ฟรังก์สวิส (เกือบ 1.43 แสนบาท) ด้วยเวลาทำงาน 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เป็นต้นไป
ภายหลังที่นครเจนีวา ที่มีประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 5 แสนคน ลงประชามติด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 สนับสนุนมาตรการใหม่นี้ ซึ่งเคยถูกปฏิเสธมาก่อนหน้า 2 ครั้ง ในปี 2554 และ 2557
ค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ของนครเจนเมื่อคิดเป็นชั่วโมงจะสูงสุดที่ 19.50 ปอนด์เสตอร์ลิง (เกือบ 800 บาท) มากกว่า 3 เท่าของสหรัฐอเมริกาให้ที่เพียงชั่วโมงละ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 230 บาท) และมากกว่า 2 เท่าของอังกฤษที่ให้ชั่วโมงละ 8.72 ปอนด์เสตอร์ลิง (เกือบ 300 บาท)
มีแชล ชารา ประธานแห่ง Groupement Transfrontalier Europeen องค์การผู้แทนคนงานข้ามชาติในฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า การลงประชามติครั้งนี้เป็น สัญลักษณ์แห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในความหลากหลายเศรษฐกิจในนครเจนีวา
“การระบาดโควิด-19 เป็นตัวสะท้อนว่า ชาวสวิสบางส่วนไม่สามารถอาศัยอยู่ในนครเจนีวาได้” นายชารากล่าวและว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อคนงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 30,000 คน ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 เป็นสตรี
บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายสวิตเซอร์แลนด์ตอนแรกเป็นผู้เสนอตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ระบุเป็นวิธีการดีสุดเพื่อพยุงค่าครองชีพเพิ่มขึ้นๆ ขณะที่บรรดาพรรคฝ่ายขวามีข้อเสนอ จำกัดคนโยกย้ายถิ่นฐานมาจากรัฐสมาชิกอียู เป็นแนวทางแก้วิกฤต แต่ถูกปฏิเสธจากการลงประชามติเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ นครเจนีวาเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดอันดับ สาม ของโลก ตามข้อมูลของ อีซีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ทว่าการระบาดรุนแรงของโควิด-19 เข้าซ้ำเติมอีก เนื่องจากต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ อีกทั้ง หลายครอบครัวเผชิญความยากจนต้องต่อคิวยาวกว่าครึ่งกิโลเมตรเพื่อรับอาหารแจกช่วงการระบาดสูงสุด
