โควิด: เยอรมัน – วันที่ 28 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า คณะกรรมการวัคซีนของเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐบาลเยอรมนี ระบุว่า ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา จากอังกฤษ ไม่ควรมีอายุเกิน 65 ปี
EPA
คณะกรรมดังกล่าวซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระอ้างเหตุผลว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมินประสิทธิภาพวัคซีนแอสตราเซเนกากับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนดังกล่าวให้เฉพาะผู้มีอายุ 18-64 ปี ในแต่ละขั้น
อย่างไรก็ตาม ที่อังกฤษ ซึ่งอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซฟอร์ด เมื่อเกือบเดือนก่อน และฉีดผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี ดร.แมรี แรมเซย์ หัวหน้าการฉีดวัคซีน สาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า ทั้งวัคซีนแอสตราเซนากา และไฟเซอร์-บิออนเทค ปลอดภัยและให้การป้องกันโควิด-19 ระดับสูง โดยเฉพาะการป้องกันโรครุนแรง
“มีเคสน้อยมากกลุ่มในผู้สูงอายุในการทดลองวัคซีนแอสตราเซเนกาที่สังเกตระดับการป้องกันที่แม่นยำในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ข้อมูลการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพได้มาก”
ส่วน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระบุว่า ไม่กังวลกับคำแนะนำของเยอรมนี “หน่วยงานของเราเองชี้แจงอย่างชัดเจนคิดว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา-ออกซฟอร์ดดีและมีประสิทธิภาพมาก ให้การป้องกันระดับสูง หลังจากได้รับการฉีดเพียงครั้งเดียว…และหลักฐานที่ให้มาคือคิดว่ามีประสิทธิผลทุกกลุ่มอายุ”
CNN
ความเคลื่อนไหวของเยอรมนีเกิดขึ้นขณะที่ สหภาพยุโรป หรือ อียู กำลังมีข้อพิพาทกับบริษัทแอสตราเซเนกา ภายหลังที่อียูลงนามในข้อตกลงกับแอสตราเซเนกาเมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว เพื่อซื้อวัคซีน 300 ล้านโดส และสิทธิซื้ออีก 100 ล้านโดส
บริษัทแอสตราเซเนกาแจ้งว่า โรงงานผลิตวัคซีนในเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมผลิตวัคซีนล่าช้า จึงไม่สามารถส่งมอบอียูตามสัญญาได้ โดย นายปาสคาล โซริออต ซีอีโอแอสตราเซเนกา กล่าวว่า การผลิตวัคซีนปกติแล้วต้องการเวลา 2 เดือน
แต่อียูระบุว่าบริษัทแอสตราเซเนกาต้องปฏิบัติตามสัญญาและส่งมอบวัคซีน โดยกันสต๊อกวัคซีนจากอังกฤษ และเรียกร้องให้ดำเนินการจริงจังเพื่อให้หลักประกันการผลิควัคซีน
นอกจากนี้ บริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค ผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 สัญชาติอเมริกันและเยอรมัน ลดจำนวนโดสที่ส่งมอบอียูด้วย ภายหลังที่อียูลงนามในข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีน 300 ล้านโดส
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการยายุโรป จะตัดสินใจในวันศุกร์ที่ 29 ม.ค. ว่า จะอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกาให้ใช้ทั่วอียูหรือไม่ โดยอียูหวังว่า ทันทีที่อนุมัติแล้วจะเริ่มส่งมอบทันที โดยวัคซีน 80 ล้านโดส จะมาถึงอียูภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ทว่าติดปัญหาการผลิตล่าช้าทำให้ความหวังริบหรี่
รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อียูจะได้รับวัคซีนลดลง 60% หรือราว 50 ล้านโดส น้อยกว่าที่สัญญาในไตรมาสแรกของปีนี้ และยังเผชิญ
อย่างไรก็ดี ทั้งอียูและบริษัทแอสตราเซเนการับปากว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาและเจรจาวิกฤตดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ 27 ม.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โควิด: อียูยัวะ “แอสตราเซเนกา” ลดปริมาณส่งวัคซีน ผลิตไม่ทัน!
