นักข่าวเบลารุส – วันที่ 4 มิ.ย. บีบีซี รายงานว่า นายโรมัน โปรตาเซวิช วัย 26 ปี นักข่าวชาวเบลารุส ผู้ถูกทางการเบลารุสจับกุมสะท้านโลก ด้วยการส่งเครื่องบินรบสกัดเครื่องบินโดยสารมาลงจอดที่กรุงมินสค์ เมืองหลวงเบลารุส เมื่อเดือนพ.ค. ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ทางการ วันที่ 3 มิ.ย. ยอมรับว่าเป็นผู้จัดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและพยายามโค่นล้มประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโค
BELARUSKAJA TELE-RADIO CAMPANIJA
นายโปรตาเซวิชกล่าวด้วยว่า วิจารณ์ประธานาธิบดีลูคาเชนโคมามากมาย แต่เริ่มเข้าใจว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องและเคารพเขา และทิ้งท้ายทั้งน้ำตาว่า หวังว่าสักวันหนึ่งจะแต่งงานและมีลูก
หลังเทปดังกล่าวออกอากาศ ผู้คนแวดล้อม กลุ่มสิทธิมนุษยชน และฝ่ายค้าน ต่างมั่นใจว่า นักข่าวหนุ่มถูกบังคับให้ออกมาพูด นอกจากนี้ ในจังหวะเอามือกุมหน้า เผยรอยช้ำที่ข้อมือทั้งสองข้าง
รอยช้ำที่ข้อมือทั้งสองข้างของนักข่าวหนุ่ม คาดว่าเป็นกุญแจมือ BELARUS TV
ส่วนพ่อของนักข่าวบอกเอเอฟพีว่า รู้สึกเจ็บปวดที่ดูลูกชายให้สัมภาษณ์ “ผมรู้จักลูกชายผมดีและผมเชื่อว่าเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ ไม่มีใครควรเชื่อคำพูดเหล่านี้ เพราะได้มาจากการทารุณและทรมานลูกชายของผม เขาถูกลักพาตัวจากเที่ยวบิน ในศตวรรษที่ 21 ตรงกลางยุโรป เป็นการกระทำของรัฐที่ก่อการร้าย ข่มเหง ทรมาน และใช้เขาในเกมการเมือง”
เคนเนธ รอธ ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ กล่าวว่า วิดีโอสัมภาษณ์เป็นหลักฐานของความโหดร้ายจากกองกำลังรักษาความปลอดภัย “ควรเป็นเอกสารแนบในการดำเนินคดีการทรมานและการปฏิบัติโหดร้ายภายใต้ประธานาธิบดีลูคาเชนโค”
ทั้งนี้ เบลารุสประท้วงประเทศหลังประธานาธิบดีลูคาเชนโคอ้างชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ปีที่แล้ว แต่ถูกประณามอย่างกว้างขวางว่าเป็นการโกง และตามมาด้วยการปราบปรามการประท้วง และบรรดาผู้นำฝ่ายค้านถูกส่งไปเรือนจำหรือลี้ภัยไปต่างประเทศ
A Belarusian dog handler checks luggages off a Ryanair Boeing 737-8AS (flight number FR4978) parked on Minsk International Airport’s apron in Minsk, on May 23, 2021. (Photo by – / ONLINER.BY / AFP)
ข้อหาร้ายแรง
นายโปรตาเซวิช อดีตบรรณาธิการช่องข่าวต่อต้านรัฐบาล เน็กซ์ตา ทางแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม ซึ่งถูกรัฐบาลเบลารุสจัดอยู่ในรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการก่อการร้าย ถูกจับเมื่อวันที่ 23 พ.ค. พร้อมน.ส.โซเฟีย ซาเปกา แฟนสาว ขณะบินไปลิทัวเนีย ซึ่งเป็นที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ แต่เครื่องบินโดยสารไรอันแอร์ถูกบังคับลงจอดที่กรุงมินสค์ หลังได้รับการขู่วางระเบิด ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นข่าวปลอม
นายโปรตาเซวิชและน.ส.ซาเปกาถูกตำรวจนำตัวไป ต่อมา ปรากฏตัวในวิดีโอเผยถูกบังคับสารภาพต่อความผิดอาญาต่อทางการเบลารุส นายโปรตาเซวิชเผชิญข้อหาร้ายแรง ทั้งข้อหาก่อความไม่สงบ ซึ่งอาจรับโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี แต่ความผิดในข้อหาก่อการร้ายมีโทษสูงกว่า และเมื่อถูกนำตัวออกจากเครื่องบิน ผู้โดยสารได้ยินเขาว่า “ผมจะได้รับโทษประหารชีวิตที่นี่”
การจับกุมนักข่าวหนุ่มเบลารุสทำให้สหภาพยุโรป หรืออียู ห้ามสายการบินเบลารุสบินเหนือน่านฟ้าอียู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ผู้นำเบลารุสสั่งเครื่องบินรบ สกัดไรอันแอร์ บีบให้ลงจอด เพื่อจับนักข่าว
