เผยสหรัฐโปรยอัฐิ “พลเอกโทโจ” ลงทะเลแปซิฟิก หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง
เผยสหรัฐโปรยอัฐิ – วันที่ 15 มิ.ย. เอพี รายงานว่า ศพของพลเอกฮิเดกิ โทโจ อดีตนายกรัฐมนตรีจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่สาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่ถูกประหารชีวิตในฐานะอาชญากรสงคราม หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นปริศนาลึกลับที่สุดในแดนอาทิตย์อุทัย ตอนนี้เริ่มจะปรากฏร่องรอยแล้วว่าอยู่ที่ไหน
เมื่อศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นท่านหนึ่งเปิดเผยเอกสารทหารของสหรัฐอเมริกาที่ลดชั้นความลับแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า อัฐิของพลเอกโทโจถูกโปรยลงมาจากเครื่องบินกองทัพสหรัฐ เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากเมืองโยโกฮามา เมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น ทางใต้ของกรุงโตเกียว ออกไปราว 50 กิโลเมตร
ศาสตราจารย์ฮิโรอากิ ทากาซาวะ ผู้เชี่ยวชาญในประเด็นศาลพิจารณาคดีอาชญากรรมสงคราม แห่งมหาวิทยาลัยนิฮง พบเอกสารดังกล่าว ระหว่างการทำวิจัยการพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามอื่นๆ ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐ ในรัฐแมริแลนด์ เมื่อปี 2561 และใช้เวลาหลายปีตรวจสอบรายละเอียดและประเมินความสำคัญของหลักฐานที่พบ
ศาสตราจารย์ทากาซาวะกล่าวว่า เอกสารดังกล่าวมีคุณค่าเนื่องจากให้รายละเอียดอย่างเป็นทางการถึงความจริงก่อนหน้านี้ที่ไม่ค่อยเป็นที่รับรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และระบุว่า อัฐิของพลเอกโทโจโปรยไปที่ไหนบ้างอย่างคร่าวๆ และจะเดินหน้าวางแผนทำวิจัยเกี่ยวกับการประหารชีวิตอาชญากรสงครามอื่นๆ ด้วย
ในเอกสารฉบับหนึ่งจากทั้งหมดที่เพิ่งเปิดเผยใหม่ ซึ่งลงวันที่ 23 ธ.ค. ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) และประทับตรา SECRET (ลับ) พันตรีกองทัพสหรัฐ ลูเธอร์ เฟรียร์สัน เขียนว่า “ข้าพเจ้ารับรองว่า ข้าพเจ้าได้รับศพ ดูแลการเผาศพ และโปรยเถ้าถ่านของอาชญากรสงครามที่ถูกประหารชีวิตต่อไปนี้ลงสู่ทะเลจากเครื่องบินประสานงานของกองทัพที่แปด” ต่อท้ายด้วยรายชื่อ 7 อาชญากรสงคราม รวมถึงพลเอกโทโจด้วย
เอกสารระบุว่า เมื่อการเผาศพเสร็จสิ้น เตาเผาจะ “ทำลายซากศพที่เหลือทั้งหมด” และพันตรีเฟรียร์สัน เขียนว่า “ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้มองเห็นแม้แต่เศษซากขนาดเล็กที่สุด”
ศาสตราจารย์ทากาซาวะอธิบายว่า ปฏิบัติการทั้งหมดเป็นไปด้วยความตึงเครียด เจ้าหน้าที่สหรัฐระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว อัฐิของพลเอกโทโจ และศพอีก 6 ราย ที่ถูกประหารชีวิตพร้อมกันด้วยการแขวนคอเมื่อปลายปี 2491 หรือ 3 ปี หลังญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มชาตินิยมสุดโต่งที่ต้องการยกย่องสรรเสริญ 7 คนดังกล่าวในฐานะผู้พลีชีพในสงคราม ขโมยไปได้
“นอกจากพยายามป้องกันไม่ให้อัฐิกลายเป็นที่ยกย่องสรรเสริญ ผมคิดว่ากองทัพสหรัฐยืนกรานที่จะไม่ยอมให้อัฐิเหล่านั้นกลับสู่ดินแดนญี่ปุ่น…เป็นความอัปยศอดสูอย่างสูงสุด” ศาสตราจารย์ทากาซาวะกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ แม้จะไม่มีอัฐิของพวกเขา แต่ครอบครัวผู้สูญเสียและส.ส.อนุรักษนิยมญี่ปุ่น เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ มักสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของอาชญากรสงครามที่ถูกประหารชีวิต ถือเป็น “วิญญาณศักดิ์สิทธิ์” ในศาสนาชินโต แต่ไม่มีการฝังอัฐิที่นั่น และกลายเป็นชนวนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้มาตลอด ที่มองว่าญี่ปุ่นไม่ได้มีความสำนึกผิดที่เคยรุกรานทั้งสองชาติในช่วงสงคราม
ด้านฮิเดโทชิ โทโจ เหลนชายผู้นำญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ เปิดใจกับเอพีว่า การที่ศพพลเอกโทโจสาบสูญไปเป็นความอัปยศอดสูของครอบครัวผู้สูญเสียมาอย่างยาวนาน แต่ตนรู้สึกโล่งใจที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผย
“หากอัฐิของพลเอกโทโจอย่างน้อยๆ ถูกโปรยตามน่านน้ำญี่ปุ่น ผมคิดว่าท่านยังโชคดีบ้าง ผมต้องการชักชวนเพื่อนๆ มาวางดอกไม้และเพื่อแสดงความอาลัยต่อท่าน” หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งโปรยอัฐิของปู่ทวด
เหลนชายของพลเอกโทโจกล่าวว่า ปู่ทวดของตนเป็นสิ่งต้องห้ามมาตลอดและไม่ได้รับเกียรติในญี่ปุ่นหลังสงคราม
“ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับปู่ทวดของผมรวมถึงคำปราศัยถูกปิดตาย ผมคิดว่า การไม่รักษาอัฐิของปู่ทวดเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายยึดครอง (ญี่ปุ่นของสหรัฐหลังสงคราม) ผมหวังที่จะเห็นการเปิดเผยมากขึ้นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในอดีตที่ไม่เป็นที่รับรู้” ฮิเดโทชิกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: