วันที่ 22 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส สังหารชาวบ้านผู้ชายและเด็กชายในเมืองโมซุลไปกว่า 284 ราย ช่วงวันที่ 20-21 ต.ค. ทั้งหมดถูกใช้เป็นโล่มนุษย์สำหรับต้านทานกองทัพอิรักบุกเข้ายึดเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของอิรัก สายข่าวเผยว่าหลังการฆ่าคนจำนวนมากนี้แล้วไอเอสนำไปฝังหมู่ในพื้นที่ของวิทยาลัยการเกษตร ทางเหนือของโมซุล สภาพศพถูกยิง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อิรักเผยว่า ไอเอสใช้วิธีจุดไฟเผาโรงงานเคมีซัลเฟอร์เพื่อสกัดการบุกของฝ่ายกองทัพอิรักเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ สังหารชาวบ้านไป 2 ราย ขณะที่ทหารอเมริกันที่อยู่ในบริเวณต้องใส่หน้ากากป้องกันพิษ
Smoke rises from a sulfur factory REUTERS/Thaier Al-Sudan
ทั้งนี้สหรัฐมีกำลังทหารราว 4,800 คนประจำการในประเทศอิรักในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังผสมต้านไอเอส รวมถึงทำภารกิจฝึกฝนกองกำลังท้องถิ่น
เหตุเกิดขึ้นก่อนที่นายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐเดินทางมาถึงกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เพื่อประเมินความก้าวหน้าศึกยึดคืนเมืองโมซุล ด้วยตนเอง หลังเปิดปฏิบัติการติดต่อกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ยึดคืนพื้นที่ได้แล้วอย่างน้อย 100 ตารางกิโลเมตร และสังหารนักรบไอเอสกว่า 200 ราย
นายแอชตันพบเหล่าผู้บัญชาการกองทัพจาก 60 ประเทศ รวมถึงหารือกับนายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก มีประเด็นรื่องบทบาทตุรกีในปฏิบัติการนี้ ไปจนถึงอนาคตของเมืองโมซุลหลังขับไล่ไอเอสออกไป รวมถึงจะเป็นงานฟื้นฟูบูรณะและการทำให้มีเสถียรภาพครั้งใหญ่
ส่วนเหตุการณ์ที่เมืองคีร์คุก ซึ่งไอเอสส่งนักรบบุกโจมตีตลบหลังเพื่อดึงความสนใจจากเมืองโมซุล ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 ต.ค. ว่ากองกำลังอิรักสังหารนักรบไอเอสเพิ่ม 48 ราย ในจำนวนนี้เมื่อจนมุมจะระเบิดตัวเอง ส่วนฝ่ายรัฐบาลเสียกำลังไปถึง 46 ราย และบาดเจ็บอีก 133 นาย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
