ผงะรายงานอากาศเปลี่ยนสุดขั้ว ชี้เป็น “รหัสแดง” ภาวะฉุกเฉินของมนุษยชาติ!
ผงะรายงานอากาศเปลี่ยนสุดขั้ว – วันที่ 9 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่าผลกระทบที่สร้างความเสียหายต่อสภาพอากาศคือข้อเท็จจริง และเป็นคำเตือนของมวลมนุษยชาติ
เอกสารผลศึกษาของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ภายใต้การทำงานของคณะกกรรมการไอพีซีซี (Sixth Assessment Report or AR6) ความยาว 42 หน้า มีสาระสำคัญได้แก่ การค้นพบว่าอุณหภูมิพื้นผิวโลกสูงขึ้น 1.09 องศาเซลเซียสในช่วงปี 2554-2564 มากกว่าการเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2393-2443 นอกจากนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โลกมีอุณหภูมิร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2393
ขณะที่อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลล่าสุดเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับปี 2444-2514 มีความเป็นไปได้มากถึงร้อยละ 90 ว่าอิทธิพลของมนุษย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่ทำให้ธารน้ำแข็งละลายตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 เช่นเดียวกับการลดลงของน้ำแข็งในทะเลของทวีปขั้วโลกเหนือ
และมีข้อบ่งชี้ค่อนข้างแน่ชัดว่าความร้อนสุดขั้ว รวมถึงคลื่นความร้อน เกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 สวนทางกับสภาวะความหนาวเย็นที่เกิดขึ้นถี่น้อยลงและรุนแรงน้อยลง
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวเตือนว่ารายงานฉบับนี้คือ “รหัสแดง” หรือภาวะฉุกเฉินของมนุษยชาติ และว่าถ้าทุกฝ่ายรวมพลังกันในตอนนี้ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากสภาพอากาศได้
รายงานนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีเวลาสำหรับความล่าช้าและไม่มีที่ว่างสำหรับข้อแก้ตัว ตนเชื่อใจในผู้นำรัฐบาลและทุกภาคส่วนเพื่อให้แน่ใจว่าการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ ของสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 1-12 พ.ย. จะประสบความสำเร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: