อียูจ่อหวนห้ามสหรัฐฯเข้าประเทศ ผวาโควิดเดลต้าคร่ามะกันทุบสถิติ

อียูจ่อหวนห้ามสหรัฐฯเข้าประเทศ – วันที่ 30 ส.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมแนะนำให้บรรดาชาติสมาชิกกลับมาใช้มาตรการสกัดกั้นบุคคลที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 สูงสุดนับตั้งแต่ 18 มี.ค.

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวแวดวงการทูตอียู ซึ่งหากไม่มีชาติสมาชิกใดคัดค้านก็จะได้ถือว่ารับการอนุมัติ ส่งผลให้บุคคลจากประเทศสหรัฐฯ โคโซโว อิสราเอล มอนเตเนโกร เลบานอน และมาเซโดเนียเหนือ ไม่สามารถเดินทางเข้าชาติอียูได้ ยกเว้นเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น

การประกาศดังกล่าวถือเป็นการหวนกลับมาใช้มาตรการสกัดกั้นบุคคลที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังอียูยกเลิกมาตรการข้างต้นไปพร้อมกับอีก 14 ชาติ เมื่อเดือนมิ.ย.

มาตรการสกัดกั้นที่จะนำกลับมาใช้นั้นจะทำให้บุคคลที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตเฉพาะผู้ที่มีเหตุจำเป็น หากเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะต้องเข้ารับการกักบริเวณเพื่อรอสังเกตอาการ และตรวจหาเชื้อด้วย

กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อก่อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์เดลต้า (พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย) ในสหรัฐฯ ส่งผลให้มลรัฐที่มีจำนวนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มียอดผู้ป่วยล้นกำลังสาธารณสุข

ในจำนวนนี้ รวมถึงเด็กที่ป่วยและต้องเข้ารับการรักษาปริมาณมาก ตลอดจนยอดผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงอย่างน่าตกใจในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ พบค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์สูงที่สุดนับตั้งแต่ 18 มี.ค.

นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อและที่ปรึกษาด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ และเคยเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้แต่แรก

นพ.เฟาซี ระบุว่า สหรัฐฯ มีสิ่งที่จะสามารถเอสชนะปัญหานี้ได้ คือ วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ หากสามารถเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มคนเหล่านี้รับการฉีดวัคซีนได้ ก็จะสามารถแก้ไขได้

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี ระบุว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีประชากรได้รับวัคซีนแล้วร้อยละ 52.1 โดยมลรัฐที่มีปริมาณผู้ครองเตียงผู้ป่วยวิกฤต หรือไอซียูสูงสุดเป็นฟลอริดา ด้วยค่าเฉลี่ย 75 เตียงต่อ 1 แสนคน และอัตราส่วนผู้ติดเชื้อถึง 690.5 ต่อ 1 แสนคน (20-26 ส.ค. 2564)

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายมลรัฐที่กำลังเผชิญวิกฤตผู้ป่วยล้นกำลังของระบบสาธารณสุข ได้แก่ รัฐเซาท์แคโรไลนา เท็กซัส และหลุยเซียนา ล้วนเป็นรัฐที่มีประชากรได้รับวัคซีนไม่ถึงร้อยละ 50 กำลังใกล้ขาดแคลนออกซิเจนให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง หลายโรงพยาบาลต้องใช้ออกซิเจนสำรอง และกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน