คดีทางเพศพุ่งเขย่าขวัญ ยอนฮัป รายงานการเปิดผลสำรวจถึงสถานการณ์ความรุนแรงต่อสตรีในสังคมเกาหลีใต้ ว่ากลุ่มผู้หญิงเกาหลีที่เห็นว่าสังคมเกาหลีใต้นั้นปลอดภัย มีไม่ถึงร้อยละ 30 หลังจากเกิดคดีอาชญากรรมทางเพศ และความรุนแรงอื่นๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดยกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัว เมื่อปี 2563 เผยแพร่เมื่อ 6 ก.ย. ว่า มีผู้หญิงอายุเกิน 13 ปีขึ้นไปเพียงร้อยละ 27.6 เท่านั้น ที่รู้สึกว่าสังคมปลอดภัยมาก หรือค่อนข้างปลอดภัย

คดีทางเพศพุ่งเขย่าขวัญ

AFP
การเคลื่อนไหว #MeToo 2018 ในเกาหลีใต้

สถิติคดีอาชญากรรมทางเพศต่อผู้หญิงปี 2562 มีสูงถึง 32,000 คดี เพิ่มจากปี 2553 ที่มีประมาณ 20,000 คดี

อาจกล่าวได้ว่าเมื่อ 2 ปีก่อน เกิดความผิดทางเพศเฉลี่ย 86 คดีต่อวัน แต่มีผู้ถูกจับเพราะกระทำความรุนแรงแฟนเกือบ 10,000 คน หรือเฉลี่ย 27 คนต่อวันซึ่งเป็นสถิติที่สูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีคดีรุนแรงกับแฟน 7,000 คดี

ส่วนจำนวนคดีความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 6,800 คดีในปี 2554 เพิ่มเป็น 50,000 คดีในปี 2562

คดีทางเพศพุ่งเขย่าขวัญ

ปี 2563 มีผู้ถูกจับกุมกว่า 5,000 คนที่กระทำผิดฐานถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอผิดกฎหมายโดยผู้กระทำผิดร้อยละ 94.1 เป็นผู้ชาย

รายงานสำรวจดังกล่าวเผยแพร่ในช่วงที่ชาวเกาหลีใต้สะเทือนขวัญกับคดีที่สาวเกาหลีถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำและเสียชีวิต โดยมีคลิปวิดีโอจากภาพวงการปิดบันทึกไว้ได้

เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานคดีดังกล่าวว่า เหยื่อสาวในคดีชื่อ ฮวาง เยจิน อายุ 25 ปี เสียชีวิตเพราะถูกแฟนหนุ่ม อายุ 30 ปี ทำร้ายร่างกายจนซี่โครงหัก อวัยวะภายในเสียหาย เลือดท่วมตัวและเสียชีวิตในห้องไอซียูที่โรงพยาบาล

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นแฟนหนุ่มจับศีรษะฮวางกระแทกกำแพงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วลากร่างไร้สติและโชกเลือดออกจากลิฟต์ในอพาร์ตเมนต์ของเหยื่อ

 

ด้านแฟนหนุ่มถูกจับฐานฆ่าผู้อื่นโดยรับสารภาพกับตำรวจว่าบันดาลโทสะที่ฝ่ายหญิงเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คนอื่นรู้ ก่อนที่จะได้รับการประกันตัวเนื่องจากศาลพิจารณาว่าผู้ต้องหาคงไม่หนีออกนอกประเทศ

ส่วนแม่ของฮวางคับแค้นใจเพราะไม่เห็นด้วยกับการระบุข้อหาความผิดของผู้ต้องหาฐานฆ่าผู้อื่นแทนที่จะเป็นฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จึงส่งหนังสือร้องเรียนไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อขอให้ออกกฎหมายต่อต้านการกระทำรุนแรงกับคู่รักที่มีบทลงโทษรุนแรงซึ่งหนังสือร้องเรียนนี้ล่ารายชื่อผู้สนับสนุนได้หลายแสนคน

คดีทางเพศพุ่งเขย่าขวัญ

การที่ชาวเกาหลีใต้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของแม่ฮวางสะท้อนให้เห็นว่าสังคมต้องการเปลี่ยนแปลงค่านิยมชายเป็นใหญ่ในเกาหลีใต้

ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมมองว่าความรุนแรงกับคู่รักเป็นลิ้นกับฟันเพราะชายหญิงทะเลาะกันเป็นธรรมดาซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย

ด้าน คิม โดยอน หัวหน้าสถาบันความรุนแรงจากการเดทของเกาหลีกล่าวว่าชาวเกาหลีจำนวนมากสนับสนุนข้อเรียกร้องของแม่ฮวางแสดงว่าสังคมตระหนักถึงภัยความรุนแรงจากการกระทำของแฟนมากขึ้นซึ่งถือว่าเลวร้ายไม่น้อยไปกว่าอาชญากรรมเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ ผู้หญิงเคยปิดปากเงียบเพราะกลัวถูกฝ่ายชายแก้แค้นหรือได้รับผลกระทบอื่นๆ แต่ตอนนี้ เริ่มเปิดปากพูดแล้วและถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดให้หนักและคุ้มครองเหยื่อ

ร่างกฎหมายต่อต้านความรุนแรงระหว่างคู่รักมีการเสนอเข้าสภามาหลายปีแล้ว แต่ออกเป็นกฎหมายไม่ได้เนื่องจากขาดเสียงข้างมากสนับสนุน

ฮวาง เย-จิน

ส่วนสถิติของตำรวจระบุว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการกระทำความรุนแรงแฟนกว่า 30,000 คดี ในจำนวนนี้ รวมการกระทำความรุนแรงทางร่างกายประมาณ 7,000 คดี การข่มขืน 84 คดีและฆาตกรรม 10 คดี

ผลสำรวจเมื่อปี 2561 พบว่าผู้หญิง 9 ใน 10 คนที่อาศัยในกรุงโซลบอกว่าเคยถูกแฟนหนุ่มล่วงละเมิดหรือถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เกิดคดีอาญากับผู้หญิงมากขึ้น เช่น อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์หรือการกระทำทางเพศอื่นๆ และการกระทำรุนแรงกับแฟน

////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เคป๊อปฉาว ตอกย้ำวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ผยองในสังคมเกาหลีใต้

เกาหลีใต้ : ผู้หญิงเอเชียที่อพยพมาแต่งงานและประสบความสำเร็จในเกาหลีใต้แม้เผชิญอคติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน