ตั้งข้อหาสองผัวเมีย – เอพี รายงานคดีสะเทือนขวัญที่เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส สะท้อนความรุนแรงในครอบครัวที่ยังแฝงอยู่ในสังคมอเมริกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเด็ก 3 พี่น้อง อายุ 15 ปี อายุ 10 ขวบ และอายุ 7 ขวบ ถูกทิ้งอยู่กันตามลำพังในสภาพผอมโซ ขาดอาหาร หิวโหย ไม่มีผ้าห่ม อยู่ในบ้านที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ที่ช็อกกว่านั้นคือต้องอยู่กับศพเด็กชายที่เป็นพี่น้องกัน อายุ 8 ขวบ
เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหา นางกลอเรีย วาย วิลเลียมส์ อายุ 35 ปี แม่ของเด็ก เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ฐานปล่อยปละเลยเด็กและทำลายหลักฐาน (ศพ) ส่วนนายไบรอัน ดับเบิลยู. คูลเทอร์ อายุ 31 ปี แฟนหนุ่มของนางวิลเลียมส์ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ทั้งสองยังถูกควบคุมตัวอยู่ ระหว่างการสอบสวนและอาจถูกตั้งข้อหาเพิ่ม
การสอบสวนเบื้องต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตกตะลึงกับสภาพของเด็ก หลังจากเด็กอายุ 15 พี่คนโตเอาชนะความกลัวโทร.แจ้งตำรวจให้เข้าช่วยเหลือ ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. เด็กแจ้งว่าน้องถูกแฟนแม่ตีตาย
“มันเป็นภาพที่รบกวนจิตใจอย่างที่สุดสำหรับคนที่ทำงานตำรวจมาตลอดชีวิต และดูเหมือนจะสยองขวัญเกินกว่าจะเป็นจริง” เอ็ด กอนซาเลซ นายอำเภอเขตแฮร์ริส กล่าว
หลังจากทีมตำรวจเข้าค้นบ้านที่เด็กแจ้งมา พบว่าเด็กๆ อยู่กันตามลำพัง และมีกะโหลก โครงกระดูกของด.ช.เคนดริก ลี อายุ 8 ขวบ อยู่ใต้ผ้าห่มในห้องนอน เด็กอายุ 15 บอกกับตำรวจว่า ผู้ปกครองย้ายไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม
การสอบสวนยังพบว่า นางวิลเลียมส์ และนายคูลเทอร์ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหลายปี ระหว่างนั้นนายคูลเทอร์เริ่มตีเด็กๆ ที่อายุยังน้อย และน่าจะเป็นช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อปีก่อน ที่นายคูลเทอร์ตี ด.ช.เคนดริกจนถึงแก่ความตาย แล้วเอาผ้าห่มคลุมร่างไว้
เด็กอายุ 7 ขวบ และ 10 ขวบที่เป็นพี่น้องกับเด็กที่ตายให้ปากคำเจ้าหน้าที่สอบสวน ว่าเห็นนายคูลเทอร์ใช้กำปั้นและเท้า ต่อยและกระทืบด.ช.เคนดริก ที่ใบหน้า เท้า ก้น หลัง ขา และลูกอัณฑะ
“ไบรอัน คูลเทอร์ยังจ้องที่เคนดริกและเตะเขาต่อ เด็กชาย 7 ขวบบอกว่า ดวงตาของเคนดริกเป็นสีดำก่อนแน่นิ่งไประหว่างการทำร้าย เด็กอายุ 7 ขวบบอกด้วยว่า เห็นเคนดริกตายจริงๆ และเห็นแมลงสาบทั่วร่างเขาไปหมด” รายงานสอบสวนที่ยื่นต่อศาลระบุ
หลังจากนายคูลเทอร์ทำร้ายเด็กจนตายไม่กี่เดือน นายคูลเทอร์และนางวิลเลียมส์ก็ย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์หลังอื่น ใช้เวลาเดินทางระหว่างกัน 25 นาที ปล่อยให้เด็กๆ อีก 3 คนอยู่กันตามลำพัง เด็กๆ ไปโรงเรียนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563
แม่เด็กนำอาหารไปให้เด็กบ้าง บางครั้งก็ใช้บริการเดลิเวอรี หรือไปวางไว้หน้าห้องเฉยๆ ส่วนใหญ่เป็นอาหารจังก์ฟู้ด เช่น บะหมี่ มันฝรั่งทอด และน้ำอัดลม อาหารดังกล่าวไม่เพียงพอกับเด็ก มีเพื่อนบ้านบางคนเอาอาหารมาให้บ้าง และมาช่วยชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้ แต่ไม่รู้สภาพความเป็นอยู่
“สิ่งแรกที่ผมถามเขาคือเขาหิวไหม เขาบอกว่าอยากกินโดนัท” เจ้าหน้าที่ตำรวจ เดนนิส โวล์ฟฟอร์ดเผย นาทีที่คุยกับเด็กๆ หลังจากพบว่าอยู่ในสภาพย่ำแย่ดังกล่าว และว่าทีมสอบสวนเชื่อว่า เด็กๆ อายุ 7 ขวบ และ 10 ขวบไม่กล้าออกจากห้องเลย เพราะกลัวถูกนายคูลเทอร์ทำร้าย
นายคูลเทอร์เคยชกเด็กชายอายุ 10 ขวบเข้าที่กราม และอาการบาดเจ็บนี้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่เคยมีบันทึกว่าทั้งแม่เด็กและนายคูลเทอร์พาเด็กไปหาหมอ เด็กถูกทำร้ายไม่กี่สัปดาห์ก่อนเจ้าหน้าที่จะไปพบศพของเด็ก 8 ขวบ
ด้านนางวิลเลียมส์ให้ปากคำก่อนถูกตั้งข้อหาว่า ไม่เคยแจ้งตำรวจว่าลูกตาย เพราะนายคูลเทอร์บอกไม่ให้ไปแจ้ง และตนเองก็กลัวเข้าคุก และเด็กจะต้องถูกส่งไปสำนักงานคุ้มครองเด็ก
ผู้พิพากษาตั้งเงินประกันนายคูลเทอร์ 1 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. หลังจากอ่านข้อหาที่อัยการยื่นฟ้องเขา แต่นายคูลเทอร์ไม่ได้มาขึ้นศาลในทีแรก เพราะถูกส่งตัวไปประมินอาการทางจิต
ต่อมาวันที่ 28 ต.ค. นายคูลเทอร์แสดงอาการไม่เข้าใจข้อกล่าวหาต่อตนเอง และขอให้ผู้พิพากษาอ่านซ้ำอีกครั้ง พร้อมถามว่าถ้าถูกตัดสินมีความผิดจะต้องจำคุกนานเท่าใด 5-99 ปีหรือไม่ ซึ่งผู้พิพากษาตอบว่าใช่ แต่แนะนำว่า ถ้ามีอะไรให้สื่อสารผ่านทนาย เพราะสิ่งที่กล่าวในศาลอาจใช้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาได้
ปัจจุบันเด็กอยู่ในการคุ้มครองของสำนักงานดังกล่าว และพบว่า เด็กสองคนมีอาการออทิสติก นายตำรวจโวล์ฟฟอร์ดกล่าวว่า เด็กที่รอดชีวิตเป็นเด็กที่น่ารัก แต่มีอาการหวาดผวาและมีดวงตาที่ว่างเปล่า
“สิ่งที่ผมภาวนาก็คือ เด็กๆ ที่รอดชีวิตอยู่จะพบความรัก ความเมตตา และการคุ้มครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กต้องการมากที่สุดและสมควรได้รับมากที่สุด หลังจากไม่ได้รับมานาน และผมหวังว่า อนาคตของพวกเขาจะดีกว่าที่ผ่านมา” นายอำเภอกอนซาเลซ กล่าว
……..
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สาวเสิร์ฟฮีโร่ ช่วยด.ช.วัย11พ้นมือผู้ปกครองโหด เงินรางวัลทะลุล้าน