วันที่ 3 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า นิวซีแลนด์ ประกาศจะ เปิดพรมแดน อีกครั้งโดยแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ขณะที่ประเทศเริ่มผ่อนมาตรการจำกัดเพื่อป้องกันโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

นายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ จาร์ซินดา อาร์เดิร์น กล่าวว่า พลเมืองนิวซีแลนด์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วที่อยู่ในออสเตรเลียสามารถเดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ขณะที่ชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับอนุญาตเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. แต่จะยังจำเป็นต้องกักตัวเอง (self-isolation) เป็นเวลา 10 วัน แต่ยกเลิกการกักตัวของรัฐบาล

จาร์ซินดา อาร์เดิร์น ถอด หน้ากาก อนามัย

New Zealand Prime Minister Jacinda Ardern removes her mask before she outlines the Government’s plans, Thursday, Feb. 3, 2022, that will dismantle its quarantine system and reopen its borders the world. Since the start of the pandemic, New Zealand has enacted some of the world’s strictest border controls. (Dean Purcell/New Zealand Herald via AP)

“การกลับมาเปิดพรมแดนด้วยวิธีการจัดการแบบนี้จะสร้างสมดุลแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามา เพื่อให้คนสามารถกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้ง และแก้ปัญหาปัญหาการขาดแคลนแรงงานของเรา ขณะเดียวกัน ยังสร้างความมั่นใจว่า ระบบการรักษาพยาบาลของเราสามารถจัดการกับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นได้” อาร์เดิร์นกล่าว

นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ระบุว่า เคยมีชีวิตก่อนโควิด แต่จะมีชีวิตหลังโควิดด้วย “เรากำลังเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยดี แต่เรายังไม่ถึงจุดนั้น” อาร์เดิร์นย้ำ

เราคิดถึงคุณ นิวซีแลนด์

New Zealand is set to begin reopening its borders from the end of the month. The country closed them at the start of the Covid-19 pandemic. Photograph: David Gray/AFP/Getty Images

การกลับมา เปิดพรมแดน ของนิวซีแลนด์จะแบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยองค์ประกอบหลักมีดังต่อไปนี้
ระยะที่ 1 – พลเมืองนิวซีแลนด์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและเดินทางมาจากออสเตรเลีย สามารถกลับบ้านได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.
ระยะที่ 2 – พลเมืองจากประเทศอื่นที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนสามารถเดินมางเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ซึ่งครอบคลุมแรงงานต่างชาติที่ขาดแคลนและมีทักษะอีกด้วย
ระยะที่ 3 – นักศึกษาต่างชาติได้รับอนุญาตเข้าประเทศสูงสุดถึง 5,000 คน ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.
ระยะที่ 4 – พลเมืองออสเตรเลียและผู้เดินทางจากที่อื่นที่สามารถเดินทางประเทศได้ตามปกติโดยไม่ต้องขอวีซ่า คาดว่าจะสามารถเดินทางเข้าประเทศไม่เกินเดือนก.ค.
ระยะที่ 5 – เริ่มเปิดพรมแดนทั้งหมดในเดือนต.ค. ซึ่งครอบคลุมผู้เดินทางคนอื่นๆ และนักศึกษาที่ต้องขอวีซ่าปกติ

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังมีเสียงวิจารณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ของนโยบายปิดพรมแดนของรัฐบาลเวลลิงตันที่กินเวลามาเกือบ 2 ปีเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วงเวลานั้น นิวซีแลนด์ ที่มีประชากร 5 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อราว 17,000 คน และเสียชีวิต 53 ราย ซึ่งเป็นจำนวนต่ำสุดเมื่อเทียบกับที่อื่นของโลก

ข่าวการ เปิดพรมแดน ยังสร้างความยินดีต่อพลเมืองนิวซีแลนด์ในต่างประเทศด้วย เนื่องจากนโยบายปิดพรมแดนที่ผ่านมาทำให้โอกาสกลับบ้านเกิดแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะได้รับเสียงตอบรับไปในทางที่ดีอย่างล้นหลามจากคนภายในประเทศ

 

กรณีล่าสุดที่พลเมืองนิวซีแลนด์ติดค้างในต่างประเทศคือ ชาร์ล็อต เบลลิส ผู้สื่อข่าวที่ทำงานให้อัล-จาซีรา สื่อสัญชาติกาตาร์ สำนักงานย่อยในอัฟกานิสถาน ที่กำลังตั้งครรภ์ ต้องติดต่อรัฐบาลตาลิบันเพื่อขออนุญาตคลอดลูก หลังยื่นคำร้องขอกลับบ้านเกิดกับนิวซีแลนด์ไปแล้วครั้งแรกแต่ถูกปฏิเสธ

ทั้งนี้ ตั้งแต่โควิด-19 สายพันธุ์เดลตามีขึ้นใน นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ยับยั้งโควิดมาเป็นการผลักดันการฉีดวัคซีนมากขึ้นและการรักษาโรคแบบประจำถิ่น ส่วนประชากรในประเทศที่มีอายุเกิน 12 ปี ผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนคิดเป็นราว 94% และผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนกระตุ้นคิดเป็น 56%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตาลิบันให้นักข่าวนิวซีแลนด์ท้อง อยู่คลอดลูก หลังอดกลับบ้านเกิดที่คุมโควิดเข้ม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน