ลุ้นเคลียร์พิพาท! ปธน.ฝรั่งเศสจ่อคุย “ปูติน” ผู้นำตุรกีเยือนยูเครน-หวังถกไตรภาคี
ลุ้นเคลียร์พิพาท! – เอเอฟพี รายงานวันที่ 3 ก.พ. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดจากความขัดแย้งยืดเยื้อระหว่าง ยูเครน กับ รัสเซีย ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา และ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อตอบโต้การเสริมกำลังทหารกว่า 100,000 นาย และอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียบริเวณชายแดนติดประเทศยูเครน
ทำเนียบขาวแถลงว่าในการหารือสั้นๆ ทางโทรศัพท์ ประธานาธิบดีมาครงกล่าวกับประธานาธิบดีไบเดนว่าอาจจะเดินทางไปรัสเซียเพื่อแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการทูต พร้อมย้ำว่าาผู้นำทั้งสองประเทศยืนยันการสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน รวมทั้งจะเดินหน้าประสานงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการทูตและการเตรียมการตอบโต้ทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและรุนแรงต่อรัสเซียหากรัสเซียรุกรานยูเครน
สองผู้นำตกลงกันว่าคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายจะติดต่อกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงปรึกษาหารือกับชาติพันธมิตรนาโต และสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เกี่ยวกับการประสานงานระหว่างทางการสหรัฐและฝรั่งเศส ครอบคลุมถึงวิธีการจัดการปัญหาพิพาทยืดเยื้อ
นอกจากนี้นายไบเดนยังแถลงส่งทหารอเมริกันอีก 3,000 นายไปยังยุโรปตะวันออกร่วมกับชาติพันธมิตรในความร่วมมือขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เพื่อให้ความช่วยเหลือยูเครนหากกองทัพรัสเซียรุกรานเข้ามาในอธิปไตยยูเครน
โดยทหารอเมริกัน 1,000 นายที่ประจำการในเยอรมนีถูกส่งไปยังโรมาเนีย อีก 2,000 นายจะเดินทางจากสหรัฐไปเยอรมนีและโปแลนด์ “ตราบใดที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แสดงความก้าวร้าว เราจะทำให้ชาติพันธมิตรนาโตในยุโรปตะวันออกมั่นใจว่าเราอยู่ตรงนี้”
อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์ กรุชโค รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้การประนีประนอมของสองฝ่ายยิ่งยากลำบาก การส่งกำลังทหารของสหรัฐเป็นขั้นตอนการทำลายล้างซึ่งเพิ่มความตึงเครียดทางทหารและลดขอบเขตการตัดสินใจทางการเมือง
ด้านประธานาธิบดีมาครงแถลงว่าสิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกคือชาติยุโรปต้องประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนต่อไป
“ผมกังวลมากเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนภาคพื้น สิ่งสำคัญสำหรับผมในกรณียูเครนและการเจรจากับรัสเซียคือการลดความตึงเครียด และใช้ข้อตกลงทางการเมืองหาทางออกจากวิกฤตนี้” นายมาครงกล่าวเมื่อวันพุธที่ 2 ก.พ. และว่าแผนเยือนรัสเซียขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของการหารือทางโทรศัพท์กับบรรดาผู้นำโลก ตนไม่ได้ตัดแผนการหรือกำหนดเดินทางใดๆ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่าพฤติกรรมของรัสเซียเป็นพลังสร้างความไม่สมดุลต่อภูมิภาค แต่ยืนยันว่ายุโรปต้องเปิดโอกาสในการหารือกับรัสเซีย และย้ำว่าการเรียกร้องการเจรจานั้นดีกว่าการเผชิญหน้ากับรัสเซียในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีน
ทั้งนี้ นายมาครงได้คุยโทรศัพท์กับนายปูตินหลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่านายมาครงจะต่อสายตรงหานายปูตินอีกครั้งช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
วันเดียวกัน ประธานาธิบดีเรเจ็ป ไตย์ยิป เอร์โดอัน ผู้นำตุรกี เดินทางเยือนกรุงเคียฟ ของยูเครน ด้วยหวังว่าจะหารือไตรภาคีกับประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีเซเลนสกี
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียแสดงความไม่พอใจต่อความพยายามจัดหารือสันติภาพของนายเอร์โดอัน เนื่องจากตุรกีเคยส่งโดรนต่อสู้ให้กับยูเครนในช่วงสงครามนากอร์โน-คาราบัค ระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน สองอดีตสาธารณรัฐสมาชิกสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: