รายงานยูเอ็นเผย โสมแดงขโมย คริปโต เป็นทุนพัฒนาโครงการมิสไซล์

วันที่ 7 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า รายงานของสหประชาชาติสรุปว่า การโจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือขโมย คริปโต (สกุลเงินดิจิตอล) มูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นทุนสนับสนุนโครงการขีปนาวุธของประเทศ

AFP PHOTO/KCNA VIA KNS

ผู้ตรวจสอบพบว่า ระหว่างปี 2563 และกลางปี 2564 นักโจมตีไซเบอร์ขโมยสินทรัพย์ดิจิตอลมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การโจมตีดังกล่าวเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

มีรายงานว่าการค้นพบนี้ถูกส่งไปคณะกรรมการคว่ำบาตรของสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.พ. การโจมตีทางไซเบอร์มุ่งเป้าไปที่การแลกเปลี่ยน คริปโต อย่างน้อย 3 แห่ง ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

รายงานยังอ้างการศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วโดยบริษัทความมั่นคง เชนาลีซิส (Chainalysis) ที่แนะนำว่าการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตของเกาหลีเหนืออาจทำเงินได้มากถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว

และในปี 2562 ยูเอ็นรายงานว่า เกาหลีเหนือสะสมเงินราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการอาวุธทำลายล้างสูง โดยใช้การโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน

เกาหลีเหนือถูกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติห้ามดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธทิ้งตัว

KCNA released picture on January 31 shows what North Korea says is the test-fire of Hwasong 12-type ground-to-ground intermediate- and long-range ballistic missile conducted under a plan of the Academy of Defence Science. KCNS/AFP/

อย่างไรก็ตาม รายงานยูเอ็นระบุว่า แม้จะมีมาตรการคว่ำบาตร เกาหลีเหนือสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขีปนาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่อไปได้ และยังแสวงหาวัตถุเทคโนโลยี และองค์ความรู้ในต่างประเทศต่อเนื่อง รวมถึงผ่านวิธีการทางไซเบอร์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ร่วมกัน

ผู้ตรวจสอบมาตรการคว่ำบาตรกล่าวว่ามีการเร่งการทดสอบขีปนาวุธโดยเกาหลีเหนืออย่างเห็นได้ชัด

ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริการะบุเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.พ. ว่า เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ 9 ครั้งในเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว

“เกาหลีเหนือแสดงความสามารถเพิ่มขึ้นในการเคลื่อนกำลังพออย่างรวดเร็ว ความคล่องตัวเป็นวงกว้าง (รวมถึงในทะเล) และปรับปรุงความยืดหยุ่นของกองกำลังขีปนาวุธของตน” ผู้ตรวจสอบมาตรการคว่ำบาตรกล่าว

เมื่อวันศุกร์เช่นกัน จีนและรัสเซียปฏิเสธลงนามในแถลงการณ์ประณามการเพิ่มจำนวนขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ต่อมาวันเสาร์ที่ 5 ก.พ. สหรัฐประกาศว่า ตัวแทนพิเศษของเกาหลีเหนือจะพบกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ปลายสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว

รายงานของสหประชาชาติยังพบว่า สถานการณ์มนุษยธรรมในเกาหลีเหนือยังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่าน่าจะเป็นผลมาจากการตัดสินใจของประเทศในการปิดพรมแดนระหว่างการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่การขาดข้อมูลจากเกาหลีเหนือจึงยากต่อการพิจารณาว่าการคว่ำบาตรระหว่างประเทศทำให้ประชาชนทุกข์ทรมานเพียงใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สหรัฐประณาม “เกาหลีเหนือ” ยิงขีปนาวุธครั้งที่ 7 ใน 1 เดือน ใหญ่สุดรอบ 5 ปี