อัยการ-ป.ป.ส. สหรัฐอเมริกา แถลงจับกุม หัวหน้ายากูซ่า องค์กรอาชญากรรมจัดตั้งข้ามชาติของญี่ปุ่น และ 3 คนไทยในสังกัด ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกันค้ายาเสพติดและอาวุธข้ามชาติ ในจำนวนนี้มี “ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ” ด้วย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น (8 เม.ย. ตามเวลาไทย) แจ้งข่าวการจับกุมหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมจัดตั้งข้ามชาติของญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อยากูซ่า (Yakuza) และ 3 คนไทยในสังกัด ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกันค้ายาเสพติดและอาวุธข้ามชาติขนาดใหญ่ รวมถึงการได้มาซึ่งยาเสพติดและอาวุธ
นายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐประจำเขตใต้ของรัฐนิวยอร์ก และน.ส.แอนน์ มิลแกรม ผู้บริหารแห่งสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (ดีอีเอ – DEA) แถลงการจับกุม นายทาเคชิ เอบิซาวะ อายุ 57 ปี, นายสมภพ สิงห์ศิริ อายุ 58 ปี, นายสุขสันต์ จุลนันท์ อายุ 53 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บ๊อบบี้” และ นายสมภักดิ์ รักษ์สราณี อายุ 55 ปี ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและการค้าอาวุธข้ามชาติ
นายเอบิซาวะ สัญชาติญี่ปุ่น นายสุขสันต์ สัญชาติสหรัฐ-ไทย และนายสมภักดิ์ สัญชาติไทย ถูกจับกุมในเขตแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 ส่วนนายสมภพ สัญชาติไทย ถูกจับกุมในเขตแมตแฮตตัน เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2565
นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ ถูกนำตัวขึ้นศาลต่อหน้าผู้พิพากษาเจนนิเฟอร์ วิลลิส เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2565 และมีคำสั่งกักขัง ส่วนนายสมภพถูกนำตัวขึ้นศาลต่อหน้าผู้พิพากษาวิลลิส เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 และมีคำสั่งกักขัง
นายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐ กล่าวว่า “เรากล่าวหาว่านายเอบิซาวะและผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นนายหน้าตกลงกับเจ้าหน้าที่ DEA นอกเครื่องแบบเพื่อซื้ออาวุธหนักและขายยาผิดกฎหมายจำนวนมาก ยาเสพติดมีจุดหมายปลายทางในรัฐนิวยอร์ก ส่วนอาวุธมีการจัดส่งแก่กลุ่มประเทศที่ไม่มั่นคง สมาชิกขององค์กรสมาคมอาชญากรรมข้ามชาตินี้ไม่สามารถทำให้ชีวิตผู้อื่นตกอยู่ในอันตรายได้อีกต่อไปและจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสำหรับการกระทำผิดกฎหมาย”
น.ส.แอนน์ มิลแกรม ผู้บริหาร DEA กล่าวว่า “การเข้าถึงเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติในวงกว้าง เช่น ยากูซ่า เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความปลอดภัยและสุขภาพของทุกชุมชน นายเอบิซาวะและพรรคพวกตั้งใจที่จำหน่ายเมตแอมเฟตามีน (ไอซ์) และเฮโรอีนหลายร้อยกิโลกรัมเข้ามาสหรัฐ โดยใช้อาวุธร้ายแรงในการก่ออาชญากรรม ในช่วงเวลาที่คนอเมริกันเกือบ 300 รายเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดทุกวัน การจับกุมครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ DEA ร่วมกับพันธมิตรในสหรัฐและระหว่างประเทศในการกำหนดเป้าหมายและนำตัวอาชญากรร้ายแรง ซึ่งเป็นผู้นำองค์กรการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ยังหลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐพร้อมยาอันตราย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
ตั้งแต่อย่างน้อยหรือราวปี 2562 เป็นต้นมา DEA ดำเนินการสืบสวนนายเอบิซาวะ หัวหน้ายากูซ่า ที่มีความเชื่อมโยงกับการค้ายาเสพติดและอาวุธขนาดใหญ่ ยากูซ่าเป็นเครือข่ายของครอบครัวอาชญากรรมข้ามชาติที่มีการจัดระเบียบแบบแผนสูงที่มีพรรคพวกในสังกัดในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ยากูซ่ายังมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมต่างๆ รวมถึงการค้าอาวุธ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การฉ้อโกง และการฟอกเงิน
ระหว่างการสืบสวน นายเอบิซาวะแนะนำให้ เจ้าหน้าที่ DEA นอกเครื่องแบบ (UC-1) ซึ่งปลอมตัวเป็นนักค้ายาเสพติดและอาวุธ รู้จักกับพรรคพวกในเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติของนายเอบิซาวะ ซึ่งครอบคลุม ญี่ปุ่น ไทย เมียนมา ศรีลังกา และ สหรัฐ รวมถึงประเทศอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการซื้อขายยาเสพติดและอาวุธขนาดใหญ่
นายเอบิซาวะ และพรรคพวกของนายเอบิซาวะ รวมถึงนายสมภพ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ เจรจาการค้ายาเสพติดและอาวุธกับ UC-1 หลายครั้ง
นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ สมคบคิดกันเป็นนายหน้าซื้อ ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (Surface-to-air missiles – SAMs) ที่ผลิตในสหรัฐจาก UC-1 รวมถึงอาวุธหนักอื่นๆ เพื่อนำไปขายกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างน้อย 2 กลุ่มในเมียนมา ได้แก่ กองทัพรัฐฉาน และ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) และทั้งสามยังรับเฮโรอีนและไอซ์ในปริมาณมากเพื่อจำหน่ายเป็นค่าอาวุธบางส่วน
นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ เข้าใจว่าอาวุธดังกล่าวผลิตในสหรัฐและนำมาจากฐานทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน และทั้งสามยังวางแผนที่จะจำหน่ายยาเสพติดในตลาดรัฐนิวยอร์ก
…………..
ส่วนหนึ่งของการนัดพบเพื่อเจรจาการค้าอาวุธตามเอกสารของศาล
เมื่อวันที่หรือราว 3 ก.พ. 2564 นายเอบิซาวะและพรรคพวก 1 คนของนายเอบิซาวะ (CC-5) นัดพบกับ UC-1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจเดนมาร์กนอกเครื่องแบบ ซึ่งปลอมตัวเป็นพรรคพวกของ UC-1 ที่โกดังในกรุงโคเปนเฮเกน
ระหว่างการนัดพบดังกล่าว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สอดส่องและบันทึกวิดีโอ นายเอบิซาวะและ CC-5 ถือและตรวจสอบชุดอาวุธของกองทัพสหรัฐ ที่เจ้าหน้านอกเครื่องแบบจัดหามา รวมถึง อาวุธจรวดต่อต้านรถถังเบา M72 แบบพกพา จำนวน 3 ชิ้น ปืนกล 7.62 M60 จำนวน 10 กระบอก และ ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ 5.56 Colt Canada (โคลต์ แคนาดา) C8 จำนวน 10 กระบอก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเผยภาพถ่ายของนายเอบิซาวะและ CC-5 และวิดีโอของ ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ “Stinger” (“สติงเกอร์”) ของกองทัพสหรัฐ จำนวน 400 ลำ ซึ่งอ้างว่าถูกจัดเก็บที่บังเกอร์ใกล้เคียง
หลังการนัดพบที่กรุงโคเปนเฮเกน UC-1 และนายเอบิซาวะโทรศัพท์ผ่าน WhatsApp หลายครั้ง ซึ่งอย่างน้อยมีการบันทึกการเสียงบางครั้ง นายเอบิซาวะบอก UC-1 ว่านายเอบิซาวะจะเดินทางไปศรีลังกาเพื่อพูดคุยกับผู้ซื้อเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธ (ผู้ซื้อที่นายเอบิซาวะกล่าวหมายถึงกองทัพพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลม ซึ่งกำลังต่อสู้กับรัฐบาลศรีลังกา) นายเอบิซาวะยังบอกกับ UC-1 ว่าสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมากำลังย่ำแย่ และกองทัพรัฐว้าสนใจที่จะซื้ออาวุธจำนวนมากจาก UC-1
ต่อมา เมื่อวันที่หรือราว 9 พ.ค. 2564 นายเอบิซาวะส่งข้อความทาง WhatsApp เป็นรายการอาวุธที่นายเอบิซาวะต้องการที่จะสั่งซื้อ (ภาพข้างบน) รวมถึงขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ จากนั้น ประชุมสายทาง WhatsApp ซึ่งมีการบันทึกเสียง นายเอบิซาวะพูดว่า รายการสั่งซื้ออาวุธดังกล่าวจะขายแก่นายพลกองทัพต่อต้านรัฐบาลเมียนมา นายเอบิซาวะบอกว่า นายพลต้องการอาวุธเพื่อสนับสนุนกองทัพรัฐว้า และกองทัพรัฐฉาน ในสงครามกลางเมืองต่อต้านรัฐบาลทหารชุดปัจจุบันในเมียนมา
นอกจากนี้ เมื่อเดือนและราวพ.ค. 2564 เช่นกัน นายเอบิซาวะแนะนำทาง WhatsApp และ Telegram ให้ UC-1 รู้จักกับนายสุขสันต์ ซึ่งนายเอบิซาวะระบุว่าเป็น นายพลกองทัพอากาศไทย และคนที่สองคือนายสมภักดิ์ ซึ่งนายเอบิซาวะระบุว่าเป็น เจ้าหน้าที่กองทัพไทยเกษียณราชการ ทั้งสองทำงานในนามของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพรัฐฉาน (CC-1) ปัจจุบันเป็นประธานของสภาฟื้นฟูรัฐฉาน ซึ่งเป็นแขนขาทางการเมืองของกองทัพรัฐฉาน
…………..
นอกจากนี้ นายเอบิซาวะ และนายสมภพ สมคบคิดกันขายไอซ์ 500 กิโลกรัม และเฮโรอีน 500 กิโลกรัม แก่ UC-1 เพื่อจำหน่ายในรัฐนิวยอร์ก
จุดเริ่มแรกของการซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่หรือราว 16 มิ.ย. 2564 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร นายสมภพนัดส่งมอบตัวอย่างไอซ์ 1 ห่อเล็ก แก่สายของ DEA ซึ่งจ่ายเงินสดแก่นายสมภพ 6,450 ดอลลาร์สหรัฐ (216,790 บาท) ต่อมา ห้องปฏิบัติการ DEA ตรวจสอบพบเมทแอมเฟตามีน ไฮโดรคลอไรด์ น้ำหนักราว 979 กรัม ที่ความบริสุทธิ์ 98 เปอร์เซ็นต์
ต่อมา วันที่ 27 ก.ย. 2564 นายสมภพนัดส่งมอบตัวอย่างเฮโรอีน 4 ห่อ ในถุงพลาสติกใส 1 ใบ แก่สายของ DEA ซึ่งจ่ายเงินสด 443,815 บาท (ราว 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ที่โรงรถของโรงแรมแห่งเดียวกัน เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตรวจสอบ 4 ห่อมีสารเหมือนแป้งสีขาวนวล น้ำหนักราว 1.4 กิโลกรัม ทดสอบภาคสนามเป็นเฮโรอีนจริง หลังการซื้อขาย UC-1 โทรศัพท์หานายสมภพทาง WhatsApp ซึ่งมีการบันทึกเสียง นายสมภพยืนยันว่าได้รับเงินค่ายาเสพติด และว่าการซื้อขายไปเป็นด้วยดี นอกจากนี้ UC-1 ส่งข้อความพร้อมภาพถ่ายตัวอย่างเฮโรอีนถึงนายสมภพ และนายสมภพยืนยันว่าภาพถ่ายแสดงของที่ถูกต้อง
นายสมภพยังสมคบคิดเพื่อครอบครองและใช้อาวุธปืน รวมถึงปืนกล เพื่อคุ้มกันการจัดส่งยาเสพติด นอกจากนี้ นายเอบิซาวะดำเนินการฟอกเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3,348,500 บาท) ในรายได้ที่ระบุว่ามาจากยาเสพติด จากสหรัฐไปญี่ปุ่น
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยแพร่รายละเอียดของข้อหาและบทลงโทษสูงสุดที่จำเลย 4 คน น่าจะได้รับในคดีนี้ตามที่รัฐสภาสหรัฐกำหนด ส่วนการพิพากษาวางโทษจำเลยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้พิพากษา
กระทง (ความผิดอาญา) | จำเลย | โทษจำคุกสูงสุด |
กระทงที่ 1: สมรู้ร่วมคิดเพื่อนำเข้ายาเสพติด | นายเอบิซาวะ และนายสมภพ | ตลอดชีวิต; โทษขั้นต่ำแบบบังคับ 10 ปี |
กระทงที่ 2: สมรู้ร่วมคิดเพื่อครอบครองอาวุธปืน รวมถึงปืนกลและอุปกรณ์ทำลายล้าง | นายสมภพ | ตลอดชีวิต |
กระทงที่ 3: สมรู้ร่วมคิดเพื่อได้มา โอน และครอบครองขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ | นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ | ตลอดชีวิต; โทษขั้นต่ำแบบบังคับ 25 ปี |
กระทงที่ 4: สมรู้ร่วมคิดเพื่อนำเข้ายาเสพติด | นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ | ตลอดชีวิต; โทษขั้นต่ำแบบบังคับ 10 ปี |
กระทงที่ 5: สมรู้ร่วมคิดเพื่อครอบครองอาวุธปืน รวมถึงปืนกลและอุปกรณ์ทำลายล้าง | นายเอบิซาวะ นายสุขสันต์ และนายสมภักดิ์ | ตลอดชีวิต |
กระทงที่ 6: ฟอกเงิน | นายเอบิซาวะ | 20 ปี |
นายวิลเลียมส์ยกย่องความพยายามอย่างดีเป็นพิเศษหน่วยสืบสวนทวิภาคีแผนกปฏิบัติการพิเศษของ DEA และขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากสำนักงาน DEA ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น, กรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่ของไทย, กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย, กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก, กรุงนิวเดลีของอินเดีย และรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ
กองปราบปรามการก่อการร้าย กองความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ, สำนักงานวิเทศสัมพันธ์ กองคดีอาญา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ, กรมปราบปรามยาเสพติดของญี่ปุ่น, กองปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น และหน่วยปฏิบัติการพิเศษตูกัส คูซุซ เมราห์ ปูตีห์/เมราห์ ปูตีห์ (Tugas Khusus Merah Putih/Merah Putih) สำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย
การดำเนินคดีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกองกำลังเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด (OCDETF) ซึ่งชี้เป้า ขัดขวาง และทลายองค์กรอาชญากรรมระดับสูงสุดที่คุกคามสหรัฐโดยใช้แนวทางหลายหน่วยงาน ขับเคลื่อนด้วยข่าวกรอง และนำโดยอัยการ
หน่วยความมั่นคงแห่งชาติและยาเสพติดระหว่างประเทศของ OCDETF กำลังดำเนินคดีนี้ นายเคย์แลน อี. ลาสกี และนายอเล็กซานเดอร์ ลี ผู้ช่วยอัยการสหรัฐ เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินคดี ด้วยความช่วยเหลือจากทนายความจำเลยแห่งแผนกต่อต้านการก่อการร้าย ลอเรน บี. กอดดาร์ด
ข้อหาที่อยู่ในคำร้องเป็นเพียงการกล่าวหา และจำเลยถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เว้นแต่และจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่ามีความผิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ออสซี่ยึด ไอซ์ เฮโรอีน จากไทย 1.3 พันล้านบาท ซุกใน “ชาเขียว-แม่เหล็ก”
ไต้หวันยึด “เฮโรอีนบริสุทธิ์” 6 พันล้านบาท ซุกไม้จากไทย หัวหน้าแก๊งเผ่นไปจีน
ฮ่องกงยึด “เฮโรอีน” ส่งมาจากไทย 275 ล้านบาท ซุกซอง “เครื่องปรุง” เส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูป