เมื่อ 31 ต.ค. เอบีซีนิวส์และวอชิงตันโพสต์รายงานผลสำรวจคะแนนนิยมคู่ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงว่านางฮิลลารี คลินตัน ผู้แทนพรรคเดโมแครต ถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ไล่ตามที่คะแนนร้อยละ 46 ต่อ 45 หลังสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) แถลงว่าพบหลักฐานชิ้นใหม่ และกำลังรื้อการสอบสวนคดีที่นางฮิลลารีใช้อีเมล์ส่วนตัวในหน้าที่ระหว่างดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ซึ่งทรัมป์ได้ทีกล่าวตีขลุมว่า เอฟบีไออาจจะกู้อีเมล์ที่นางฮิลลารีใช้ส่งข้อความจดหมาย 33,000 ฉบับที่ถูกลบไปก็ได้

โดนัลด์ ทรัมป์ /AFP

โดนัลด์ ทรัมป์ /AFP

สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นการถอยหลังก้าวใหญ่ของอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์มากถึง 11 จุด โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 6 ใน 10 คน กล่าวว่าการค้นพบครั้งใหม่ของเอฟบีไอไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ขณะที่ 3 ใน 10 กล่าวว่าทำให้ชื่นชอบนางฮิลลารีน้อยลง

 

ด้านโพลซีเอ็นเอ็นระบุว่า นางฮิลลารียังคงความนิยมทิ้งห่างนายทรัมป์ที่ร้อยละ 47 ต่อ 42 แม้จะไม่มากเท่ากับช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ก่อนที่นายทรัมป์ตกเป็นเป้าโจมตีดุเดือดจากข่าวฉาวการล่วงละเมิดทางเพศ แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง

ส่วนผลเอ็นบีซีและวอลสตรีตเจอร์นัล ฮิลลารีมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์ ร้อยละ 47 ต่อ 41 ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐฟลอริดานำเพียงร้อยละ 45 ต่อ 44

เจมส์ คอมีย์ / AP

เจมส์ คอมีย์ / AP

ขณะเดียวกัน นายเจมส์ คอมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอถูกตั้งข้อสังเกตถึงจังหวะเวลาที่ทำเรื่องให้เป็นข่าว เช่น นายแฮร์รี รีด ส.ว.เดโมแครตจากเนวาดา เห็นว่านายคอมีย์จงใจช่วยเหลือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะเลือกจะปิดบังข้อมูลความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับที่ปรึกษาระดับสูงของนายทรัมป์ รวมถึงรัฐบาลรัสเซียด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน