กรณีบีจีเอฟหรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดนนำโดยพันเอกหม่อง ชิตตู่ ประกาศไล่จีนเทาออกจากเมียวดีภายใน 6 เดือน เผยแพร่ข้อความใน 3 ภาษา ได้แก่ เมียนมา อังกฤษและจีน ระบุว่า ชาวต่างชาติทุกคนที่กำลังทำธุรกิจออนไลน์รอบเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงต้องออกไปภายในวันที่ 1 พ.ค.-31 ต.ค.2567
และชาวต่างชาติที่ข้ามแดนมาอย่างผิดกฎหมายจะต้องออกจากประเทศเมียนมาด้วยช่องทางที่เข้ามา หากยังพบบุคคลตามประกาศนี้ หลังจากวันที่ 31 ต.ค.2567 จะมีการจัดการอย่างจริงจังนั้น
รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มองได้หลายแบบ จากประกาศให้เวลามากพอสมควรในการให้จีนเทาออกไป การดำเนินการในลักษณะนี้ทำให้ได้ภาพที่ดี ภาพค่อนข้างขาวสะอาด แต่ในทางปฏิบัติจริงไม่คิดว่าจะทำได้ เพราะจีนเทามีผลประโยชน์อย่างมากกับหม่อง ชิตตู่ หัวหน้ากะเหรี่ยงบีจีเอฟ
เนื่องจากการกำเนิดของชเวก๊กโก่ เคเคปาร์ก มาจากกลุ่มจีนเทาเข้ามาร่วมกับบีจีเอฟด้วย และหม่อง ชิตตู่เข้าไปน่าจะสร้างความแข็งแรงให้กับการต่อรองของทหารพม่า
การมีข่าวว่าต้องไล่จีนเทาออก ทั้งๆที่ฐานอำนาจบีจีเอฟ อาศัยจีนเทาค้ำยันอยู่ แล้วทหารพม่าเองในพื้นที่มีปฏิสัมพันธ์กับจีนเทาไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว
แต่อาจเป็นการคัดกรองเอาจีนเทาที่อยากอยู่จริงๆและให้ได้ผลประโยชน์กับทางฝ่ายทหารพม่าจริง ได้มาอยู่ปฏิบัติงาน รวมถึงต่อรองร่วมกัน เรื่องนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่สามารถไปฟันธงว่า กลุ่มนี้อยู่ฝั่งนี้แล้วจะไม่ลื่นไหลไปอยู่ฝั่งอื่น หรือเขาประกาศแบบนี้แล้วต้องเป็นไปตามประกาศ ทั้งๆที่หลังฉากเป็นอีกแบบหนึ่ง หรืออาจเป็นแบบนั้นก็ได้
จริงๆการมีอยู่ของจีนเทาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศจีน รัฐบาลจีนกล่าวว่า จับจีนเทา แต่จริงๆการอยู่ของจีนเทาที่ใดที่หนึ่งนอกประเทศจีนนั้นมีความหมายในทางยุทธศาสตร์ เพราะถ้าที่ใดก็ตามมีจีนเทา จีนสามารถอ้างได้ว่า เป็นแหล่งอาชญากรรมที่จีนต้องเข้ามาจัดระเบียบควบคุม ถ้าคนในพื้นที่ไม่สามารถจัดการพื้นที่ตรงนี้ได้ จีนก็น่าจะเข้ามาจัดการเองได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นที่ใดมีจีนเทา ที่นั่นมีแนวโน้มว่าจะถูกสถาปนาเป็นแนวกันชนของจีนได้ด้วย
ยกตัวอย่าง ที่ผ่านมามีแผนที่ในติ๊กต็อก โด่งดังมากในหมู่คนจีน เป็นแผนที่พม่าเขียนด้วยอักษรจีน แสดงพื้นที่รัฐฉาน และขีดเป็นหมายเลขขึ้นมา 1 ,2 , 3, 4 เป็นพื้นที่โกก้าง ว้าเหนือ เมืองลา ว้าใต้ที่อยู่ติดชายแดนไทย ซึ่งจีนบอกว่า คือเขตอิทธิพลและผลประโยชน์ของจีน กลายเป็นว่าจีนไปสถาปนาเขตกันชน เขตอิทธิพลจีนในรัฐฉานของพม่า
ตนยังไม่เห็นแผนที่กันชนของรัฐกะเหรี่ยงที่ติดแม่น้ำเมย แต่ว่าในส่วนว้าใต้ที่ติดชายแดนสามจังหวัดของไทยทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ไปเป็นเขตอิทธิพลจีนเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นจับตาดูกัน
หม่อง ชิตตู่ มีกำลังพลราว 6,000-8,000 นาย เพราะฉะนั้นหากเปลี่ยนดุลไปเข้ากับฝั่งไหนจะเปลี่ยนดุลการรบได้เลย ดังนั้น การที่หม่อง ชิตตู่ประกาศถอยจากกองทัพ แล้วก็เหมือนว่า เข้าไปเติมกำลังให้กะเหรี่ยงเคเอ็นยู ทหารพม่าไม่พอใจมาก ส่งผลให้ทหารพม่าใช้กลยุทธ์ข่มขู่จะเอาเครื่องบิบไปถล่มในชเวก๊กโก่ให้ราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งเท่ากับทุบหม้อข้าวหม้อแกงของกลุ่มชิตตู่ เกมเปลี่ยน กลายเป็นกลุ่มนี้เข้าหากองทัพพม่ามากขึ้น ต้องไปดูว่าเคเอ็นยูกับบีจีเอฟจะเอายังไง ถ้าเผื่อจะเปิดศึกกับทหารพม่า อาจจะเปิดศึกกับบีจีเอฟของชิตตู่ด้วย
“บีจีเอฟของ ชิตตู่เป็นชาติพันธุ์กะเหรี่ยงถ้ายึดชาติพันธุ์ต้องช่วยกะเหรี่ยงเคเอ็นยู แต่ถ้าเลือกผลประโยชน์ จะเลือกทหารพม่า เพราะทหารพม่าจะไม่จับไปดำเนินคดี พม่าจะคุ้มกันและคุ้มครองหรืออาจจะเติมรายได้ให้บีจีเอฟมากขึ้น ผมคิดว่า ชิตตู่เลือกตัวเลือกหลัง” อาจารย์ดุลยภาคกล่าว
ตัวแบบทางประวัติศาสตร์ให้ย้อนกลับไปดูขุนส่าในยุคสงครามเย็น ซึ่งครองเขตอิทธิพลสามเหลี่ยมทองคำ ในรัฐฉานใต้เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น เฮโรอีน และมีราชายาเสพติดเป็นขุนศึกชาติพันธุ์นามว่า ขุนส่า เคยอยู่ในโมเมนตัมของขบวนการกู้ชาติไทใหญ่อยู่ช่วงหนึ่ง และมีความสามารถปลดแอกให้ไทใหญ่เป็นสหพันธรัฐได้ แต่สุดท้ายแล้วขุนส่าสีเทา มีคดีความ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย สุดท้ายทหารพม่าข่มขู่ให้เลือกฝั่ง และเสนอผลประโยชน์ให้ จนในที่สุดขุนส่าวางอาวุธ และเป็นพวกกับทหารพม่า นำไปสู่การล่มสลายของกองทัพเมิงไต และดับฝันขบวนการปฏิวัติกู้ชาติไทใหญ่ไปมากพอสมควร
พฤติกรรมขุนส่าเทียบเคียงทำนายพฤติกรรมชิต ตู่ได้ไม่มากก็น้อย และถ้าจะให้ภาพการบันเทิงครบอรรถรสแนะนำให้ย้อนดูละคร 2 เรื่อง คือ เก็บแผ่นดิน สะท้อนรัฐกะเหรี่ยง และ เมืองดาหลา คือภาพแทนรัฐฉาน มีการปราบปรามยาเสพติด ผ่านการทำศึกรบกับว้าแดงรวมถึงรบพม่าด้วย
แผนรบมากกว่าเมียวดี
แบ่งสัดส่วนผลประโยชน์กันยังไงบ้างระหว่างกลุ่มทหารพม่า กะเหรี่ยงเคเอ็นยูในเมียวดี อาจารย์ดุลยภาคมองว่า เป็นคลื่นใต้น้ำ สงบชั่วคราวในการเจรจาต่อรอง แต่ก็จะมีการปะทะขึ้นอีกเป็นจุดๆ หากเราไปดูรายงานข่าวในเมียวดี หลังรัฐประหารจนถึงทุกวันนี้ มีข่าวว่าเคเอ็นยูบุกเมียวดีมาก่อนหน้านี้ และพม่ายึดคืน และมีข่าวแบบนี้อีก แต่เป็นในลักษณะที่เคเอ็นยูกับพีดีเอฟ ยึดเมืองเมียวดีได้มาก และทำให้หน่วยทหารของพม่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่จริงๆ เมื่อพิจารณาธรรมชาติของความขัดแย้ง ในทำนองเดี๋ยวสงบเดี๋ยวปะทะเดือดและอยู่ในการเจรจาต่อรองด้วย ในสายตาของทหารพม่าคงไม่คิดที่จะยกทัพเข้ามามาตีเมียวดีอย่างเดียว แต่ปฏิบัติการตามแนวชายแดนติดไทยลากยาวลงมา ไม่ใช่เพียงพื้นที่ตรงข้ามแม่สอด แต่มีปฏิบัติการทหารแถวๆใกล้บ้านแม่โกเกน พบพระ อุ้มผางตรงที่เป็นแผ่นดินพม่ายื่นลึกเข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งเกิดเหตุตรงนี้บ่อยๆและมีการปะทะกันอยู่
แผนคือรุกที่อื่นๆด้วย เพราะฐานที่มั่น แหล่งซ่องสุมปฏิวัติเพื่อชิงดินแดนของเคเอ็นยู ไม่ได้อยู่ที่เมียวดีอย่างเดียว แต่อยู่ด้านใต้เมียวดีด้วย
“แม่สะเรียงของจังหวัดแม่ฮ่องสอนลงมาจะเจอกับจังหวัดตาก ท่าสองยาง แม่ละมาด แม่สอด อุ้มผาง พบพระไล่ลงมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่นี้เฝ้าระวังให้ดี เนื่องจากเป็นจุดที่แผ่นดินพม่ายื่นลึกเข้ามาฝั่งไทย” อาจารย์ดุลยภาคกล่าว
ตนคิดว่าปัจจัยที่ตัดสินจริงๆคือกลุ่มของหม่อง ชิตตู่ ซึ่งคุมบีจีเอฟ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ซึ่งในอดีตเป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ผิดกฎหมาย และมีหลายกลุ่มทั่วประเทศ ต่อมาในปีค.ศ. 2009 กองทัพพม่าออกกฎหมายบีจีเอฟบอกให้กลุ่มเหล่านี้ไปสัมภาษณ์เข้าเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน โดยให้แต่งเครื่องแบบที่กองทัพพม่ากำหนด รับเงินสนับสนุนจากกองทัพพม่า รับอาวุธยุทโธปกรณ์จากกองทัพ ส่งบุคคลจากกองทัพมาควบคุม
ดังนั้น บีจีเอฟเกิดขึ้นทั่วประเทศไม่ใช่มีแค่รัฐกะเหรี่ยงรัฐเดียว ที่รัฐฉาน คะฉิ่นก็มี แต่กลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ยอมแปรสภาพเป็นบีจีเอฟ อาทิ เคเอ็นยู ดีเคบีเอ ซึ่งเข้ามาเจรจาผสมการต่อสู้กับรัฐบาลพม่า
พญามังกรแผ่อิทธิพลล้อมไทย
อาจารย์ธรรมศาสตร์มองว่า มีความท้าทายทางยุทธศาสตร์อย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อประเทศไทยเต็มๆเลย และไม่ได้เป็นความท้าทายที่มาจากตัวพม่าเอง แต่มาจากจีน ซึ่งจีนเข้าไปมีอิทธิพล ควบคุมในพม่าอย่างมากหลังการรัฐประหาร โดยในปัจจุบันปีสองปีมานี้ พม่าฟังจีนหลายอย่าง กลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มสนิทสนมกับจีน ผลประโยชน์จีนในพม่ามากมาย
เมื่อพิจารณาระเบียบเศรษฐกิจความมั่นคงในลุ่มแม่น้ำโขง ครอบคลุมจังหวัดภาคเหนือของไทย สปป. ลาว รัฐฉาน มณฑลยูนนาน จีนตะวันออกเฉียงใต้ อำนาจจีนเต็มไปหมดมีทั้งจีนขาวจีนเทา การแผ่อิทธิพลของจีนหลากหลายรูปแบบ
แต่มองไปมองมาจีนไม่ได้อยู่ในลุ่มน้ำโขงอย่างเดียวเสียแล้ว จีนลงมาที่แม่น้ำสาละวินด้วย พยายามคืบคลานเข้ามาเพราะมีเขื่อนขนาดยักษ์หลายเขื่อนที่รัฐกะยา รวมถึงเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะมีจีนเข้ามาลงทุน แล้วพอลงไปชเวก๊กโก่ เคเคปาร์ก ใกล้ๆเมียวดี ไทยอยู่ลุ่มแม่น้ำเมย และลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลจีน
พญามังกรเลื้อยผ่านพม่า กดอยู่ตรงชายแดนเราในภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยาวมาถึงแม่สะเรียงและตลอดแนวของจังหวัดตากไปเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น สถานการณ์สงครามกลางเมืองทำให้พม่าอ่อนแอลงบ้าง จีนเข้ามาควบคุมระเบียบความมั่นคงในพม่ารวมถึงชายแดนด้วย คำถามคือ ไทยซึ่งมีผลประโยชน์การค้าชายแดน และมีอำนาจพอประมาณนั้นจะสถาปนาอำนาจในพื้นที่ดังกล่าวได้บ้างหรือไม่
หากปล่อยไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เท่ากับว่าจีนทำอะไร เล่นเกมอะไร เราต้องเล่นตามจีน เราอยากเจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ชายแดนไทยเรา แต่สุดท้าย ต้องไปเชิญจีนเข้าด้วย จะไม่เชิญได้อย่างไร อิทธิพลจีนเทาติดประเทศไทยทำให้จีนอยู่ในสถานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงต้องเชิญคุยด้วย เพราะฉะนั้น เมื่อเราต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศ แล้วหากบีบให้ไทยใช้นโยบายเลือกข้าง ฝ่ายจีนผ่านโครงการหนึ่งแถบเส้นทาง หรือฝ่ายอเมริกาผ่านยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เราก็ไม่มีทางออกเพราะถูกจีนล้อม
พม่าเข้าสู่โหมดสงครามกลางเมืองที่เข้าสู่การรบกันอย่างบ้าระห่ำ กลุ่มชาติพันธุ์มีวาระเฉพาะบางกลุ่ม ถ้าทำสงครามไปสักระยะหนึ่งอาจได้ดินแดน หรือเขตควบคุมเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นทุกคนเล็งเห็นประโยชน์หมด บางทีสงครามสร้างรัฐหรือได้ดินแดน
ฉะนั้นการเจรจาสันติภาพเพื่อหยุดยิงทั่วประเทศยังเกิดขึ้นยาก แต่ถ้าเป็นสันติภาพชั่วคราวในบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นแล้ว เช่น ปฏิบัติการ 1027 เมื่อปีที่แล้ว เกิดการรบเดือดในรัฐฉาน แต่ทำไมทัพพันธมิตรสามพี่น้องไม่บุกต่อไปถึงนครมัณฑะเลย์ โรงเรียนนายร้อย นั่นเพราะว่ามีการเจรจาหยุดยิงและมีจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ความฝันมหารัฐกอทูเลของกะเหรี่ยง
ความฝันมหารัฐกอทูเลของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงยิ่งใหญ่แค่ไหน ซึ่งต้องย้อนไปในห้วง ปีค.ศ.1947 ปัญญาชนปฏิวัติชาวกะเหรี่ยงออกหนังสือเอกสาร ว่าด้วยชนชาติพม่ากับชนชาติกะเหรี่ยง ซึ่งกล่าวถึงลักษณะเฉพาะของชนชาติกะเหรี่ยง นิสัยใจคอ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือความใหญ่โตและจนกระทั่งซอบาบูจี นักปฏิวัติกล่าวถึงมหารัฐกอทูเล หมายถึงประเทศหรือดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพ
มหารัฐหมายถึงพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่ง แต่กลุ่มชาติพันธุ์อยากจะขยายพื้นที่ออกไปให้ยิ่งใหญ่ และพื้นที่นั้นมีกลุ่มชาติพันธุ์นั้นอาศัยอยู่ และกลุ่มมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆด้วยได้ ดังนั้น มหารัฐกอทูเลเป็นเรื่องที่มีอยู่จริงง
ขอบเขตภูมิศาสตร์ของมหารัฐ เมื่อเทียบกับรัฐกะเหรี่ยงปัจจุบันนั้นใหญ่กว่ามาก ครอบคลุมรัฐกะเหรี่ยงในปัจจุบัน พื้นที่ในเขตพม่าแท้ตรงลุ่มแม่น้ำสะโตง แถวตองอู ภูมิภาคพะโค รวมหงสาวดีด้วย พะสิมในเขตปากแม่น้ำอิรวดี ดังนั้น คลุมเขตที่เป็นถิ่นฐานของเขตชนชาติพม่าแท้และมอญด้วย
กะเหรี่ยงอยากได้รัฐชาติที่ยิ่งใหญ่ไพศาล และไม่ล้าหลังอยู่ในป่าเขาอย่างเดียว แต่จะต้องออกทะเลได้ด้วยนั่นคือรวมนครย่างกุ้ง เมืองเมาะตะมะและมะละแหม่ง ซึ่งอยู่ในเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญที่จะทำให้พื้นที่ของกะเหรี่ยงเจริญมากยิ่งขึ้น แต่คนชาติพันธุ์พม่า มอญไม่ยอม
กลับมาในปัจจุบัน แถลงการณ์ของตัวแทนเคเอ็นยูหลายครั้ง เน้นยำคำว่า กอทูเล บ่อยมาก ต่างจากเมื่อก่อนจะพูดถึงเคเอ็นยูในเชิงกองพลที่ 5 กองพลที่ 6 ดังนั้น คิดว่าหากกะเหรี่ยงรบชนะทหารพม่ามากๆ ซึ่งอาจจะมีมหาอำนาจหรือประเทศอื่นๆสนับสนุนด้วย จะทำให้เขามีแนวคิดฟื้นคืนมหารัฐกอทูเลที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
การสู้รบที่เมืองเมียวดี กอกะเระ มะละแหม่ง คือพยายามควบคุมเอเชี่ยนไฮเวย์ หรือ ทางหลวงสายเอเชีย ขณะเดียวกันมีแนวรบบางอย่างของเคเอ็นยูที่เข้าไปในภาคพะโค ในเขตลุ่มน้ำสะโตง ซึ่งไม่ใช่แค่ต้องการเข้าไปเจาะไข่แดงตรงลุ่มน้ำสะโตง แต่พีดีเอฟ หน่วยทหารที่คุมหน่วยที่ราบภาคกลาง มีแผนจะยึดตองอูในเขตลุ่มแม่น้ำสะโตงด้วย ซึ่งยิ่งยุ่งเหยิงกันไปใหญ่
ทหารพม่าไม่ยอมเพราะตองอูเป็นปากทางออกสวนขึ้นเหนือไปกรุงเนปยีดอว์ และเป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางทหารของกองทัพพม่าอยู่มากมาย เพราะฉะนั้นการชิงอาณาเขตภูเขาสะโตงก็จะดุเดือดเหมือนกัน เขตนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหารัฐกอทูเล แต่ขณะเดียวกันกลุ่มอื่นๆก็อยากสถาปนาอำนาจนำในเขตนี้ด้วยเหมือนกัน
อ่าน ‘บัวแก้ว’ ถกองค์กรระหว่างประเทศ เตรียมยกระดับความช่วยเหลือมนุษยธรรมพม่ารอบ 2
อ่าน จับตา ‘หม่อง ชิตตู่’ กลับลำ! ร่วมกองทัพเมียนมา คุ้มกันทหารเข้าค่ายเมียวดี ชักธงเมียนมาขึ้นเสา
อ่าน รมว.ต่างประเทศเผย ยังไม่มีทหารพม่าขอหนีภัย สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยูเอ็นเอชซีอาร์เสนอช่วย