ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เผย ‘Microsoft’ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก กำลังเจรจา ซื้อกิจการ ‘TikTok’
สำนักข่าวต่างประเทศ บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เผย ‘Microsoft’ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก กำลังอยู่ในระหว่างการหารือเพื่อซื้อกิจการ TikTok ของบริษัท ByteDance ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามทรัมป์ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า Microsoft กำลังเตรียมยื่นประมูลเพื่อซื้อกิจการ Tiktok หรือไม่ ทางด้านทรัมป์ เผยว่า Microsoft กำลังเตรียมเข้าซื้อกิจการจริง และมีบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการ Tiktok อย่างมาก
โดยก่อนหน้านี้ ความพยายามของทั้งทรัมป์และโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อน พยายามเจรจาให้ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ในจีน ขายกิจการในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติมาหลายปีแล้ว
ภาพประกอบ
ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อเลื่อนการแบน TikTok ของรัฐบาลไบเดน ซึ่งทำให้แอปดังกล่าวต้องปิดให้บริการชั่วคราวสำหรับผู้ใช้งานติ๊กต็อก 170 ล้านคนในสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
แม้ว่าจะให้ TikTok ได้รับการผ่อนผันการแบนเป็นเวลา 75 วัน แต่ทรัมป์ก็เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เริ่มกดดันให้ ByteDance ขายแอปของตน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวว่า เขากำลังหารือกับหลายฝ่ายเกี่ยวกับการเข้าซื้อ TikTok และคาดว่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแอปนี้ภายใน 30 วันข้างหน้า
ด้านโฆษกของ Microsoft ยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ณ ขณะนี้
ภาพประกอบ
ขณะที่ รายชื่อที่ถูกโยงเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการติ๊กต็อก ก่อนหน้านี้ คือ มหาเศรษฐีแฟรงก์ แม็คคอร์ต เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ และนักธุรกิจชาวแคนาดา เควิน โอ’ลีรี ซึ่งเป็นนักลงทุนชื่อดังจากรายการ Shark Tank ซึ่งเป็นรายการ Dragon’s Den เวอร์ชันอเมริกา
รวมถึง จิมมี่ โดนัลสัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ MrBeast ยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก มีผู้ติดตามมากกว่า 344 ล้านคน เป็นอีกหนึ่งคนที่ให้ความสนใจในการซื้อ TikTok ก่อนที่จะถูกแบนทั่วสหรัฐฯ โดยหวังจะเข้าร่วมกับผู้ที่มีโอกาสชนะการประมูล
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ 27 ม.ค. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวปราศรัยต่อกลุ่มนักการเมืองพรรครีพับลิกันในรัฐฟลอริดา โดยพูดถึงข้อเสนอขาย TikTok ว่า “เราจะดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะมีคนจำนวนมากเสนอซื้อกิจการนี้”
“หากเราสามารถรักษาเสียงและงานทั้งหมดนั้นไว้ได้ และจีนจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง เราไม่ต้องการให้จีนเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ทรัมป์กล่าวทิ้งท้าย
