เมื่อ 13 เม.ย. บีบีซีรายงานความคืบหน้ากระแสความโกรธแค้นของชาวอินเดียและในโลกออนไลน์ จากคดีรุมข่มขืนฆ่าเด็กหญิง อะซิฟา บาโน อายุ 8 ขวบ จากกลุ่มชนร่อนเร่มุสลิม หลังมีผู้พบศพของด.ญ. ถูกทิ้งอยู่ในป่าที่เมืองคาทัว แคว้นแคชเมียร์ เมื่อ 17 ม.ค. ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้อง 8 คน ทำให้มีชาวฮินดูออกมาประท้วงตำรวจ ทำให้คดีดังกล่าวลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งทางศาสนาในอินเดีย
อ่านข่าว : คดีข่มขืนฆ่าโหดด.ญ.มุสลิมวัย 8 ขวบลุกลาม ม็อบฮินดูฮือต้านจับ 8 ผู้ต้องหา
การสอบสวนพบว่า เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายโดยลักพาตัว มอมยา และรุมข่มขืนเป็นเวลานานหลายวัน ก่อนจะโดนฆ่าทิ้งอย่างทารุณ ทำให้ทางการอินเดียเรียกหน่วยสอบสวนคดีพิเศษ หรือเอสไอที ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และตรวจสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ
แต่เมื่อคณะสอบสวนพิเศษจากเอสไอทีเดินทางไปถึงศาลเพื่อมอบผลตรวจสอบให้ผู้พิพากษา กลับโดนบรรดาทนายความของจำเลยและผู้สนับสนุนรุมขัดขวางจนไม่สามารถเข้าไปภายในได้
ขณะที่ชาวอินเดียกลุ่มที่ต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีและเด็กเตรียมประท้วงในหลายจุดทั่วประเทศเพื่อแสดงพลัง
ขณะที่ศาลสูงสุดของอินเดียจะเป็นผู้ลงมาพิจารณาคดีดังกล่าวเอง หลังงานสืบสวนของตำรวจถูกขัดขวางจากกลุ่มผู้สนับสนุนของจำเลย
สำหรับชายผู้ต้องสงสัย 8 คน ได้แก่ อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกษียณอายุงานแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น 4 นาย และผู้เยาว์ ทั้งหมดอาศัยอยู่ในชุมชนชาวฮินดูที่กำลังมีความขัดแย้งเรื่องที่ดินกับกลุ่มชนร่อนเร่มุสลิมดังกล่าว
ความโกรธแค้นของชาวอินเดียยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลังรัฐมนตรี 2 คน จากพรรคภารตียชนตะ หรือบีเจพี ฝ่ายรัฐบาล เดินทางไปร่วมกับชาวฮินดูเพื่อให้กำลังใจกลุ่มชายที่โดนตำรวจจับกุม
ส่วนนายราหุล คานธี ผู้นำวิปฝ่ายค้านจากพรรคคองเกรสอินเดีย เป็นผู้นำจุดเทียนไว้อาลัยให้กับเด็กผู้เสียชีวิต