เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมอนุกรรมการมรดกทางวัฒนธรรมเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมหารือเกี่ยวกับคำชี้แจงคณะกรรมการมรดกโลก เรื่องรายงานสถานภาพการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยาของกรมศิลปากร โดยต้องรายงานต่อคณะกรรมการมรดกโลกภายในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกมีคำแนะนำให้ประเทศไทยดำเนินการในเรื่องต่างๆ อาทิ 1.ให้จัดโครงการอบรมเพื่อปรับปรุงฝีมือ ทักษะความรู้ ความชำนาญของช่างฝีมือที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการอนุรักษ์ และฝีมือช่างแบบดั้งเดิม

201608181219261-20111216140823

โดยกรมศิลปากรรายงานว่า ได้จัดทำหลักสูตรอบรมร่วมกับองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และหน่วยงานด้านการอนุรักษ์ รวมทั้งจัดอบรมไปแล้ว 5 ครั้ง 2.ให้จัดทำแผนการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาให้คำปรึกษา ซึ่งแผนนี้มีทั้งหมด 8 ด้าน อาทิ การอนุรักษ์โบราณสถาน การควบคุมสิ่งก่อสร้าง การส่งเสริมรายได้ การท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งกรมศิลปากรพร้อมรายงานแผนการอนุรักษ์ต่อยูเนสโก

นายวีระ กล่าวต่อว่า 3.การจัดสัมมนาการอนุรักษ์ระดับนานาชาติ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์จากประเทศต่างๆมาเข้าร่วม ซึ่งกรมศิลปากรจัดสัมมนาไปแล้ว 3 ครั้ง 4.การควบคุมสิ่งก่อสร้างใหม่ในพื้นที่และบริเวณโดยรอบนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งแบ่งเป็นโซนตรงกลางที่มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลก โซนริมแม่น้ำควบคุมความสูงอาคารอยู่ในระยะ 8 เมตร 12 เมตรและ 15 เมตร ตามลำดับ และ 5.การฟื้นฟูและบูรณะโบราณสถานในนครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยาภายหลังน้ำท่วม โดยยูเนสโกได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาดูการบูรณะและให้คำแนะนำ ซึ่งกรมศิลปากรได้ปรับปรุงการบูรณะเพิ่มเติมครบถ้วนตามคำแนะนำ พร้อมกับทำภาพเปรียบเทียบการบูรณะที่ทำไว้เดิม กับการบูรณะเพิ่มเติมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโก

รมว.วธ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลกในบัญชีเบื้องต้น (Tentative List) ซึ่งพระธาตุพนมวรมหาวิหารเข้าหลักเกณฑ์ของยูเนสโก เนื่องจากเป็นศาสนาสถานที่มีคุณค่าโดดเด่น เป็นสากล มีคุณสมบัติในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกชองยูเนสโกใน 3 เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์ที่ 1 เป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ เกณฑ์ที่ 2 เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องหรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และเกณฑ์ที่ 6 มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือความโดดเด่นในประวัติศาสตร์

“ที่ประชุมมอบหมายให้กรมศิลปากรไปรวบรวมข้อมูล เอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะนำทั้งสองเรื่องนี้ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ วันที่ 23 พ.ย. นี้ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนของการเสนอพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อขึ้นทะเบียนมรดกโลกในบัญชีเบื้องต้นนั้น จะเสนอต่อยูเนสโกภายในวันที่ 1 ก.พ.ปี2560” นายวีระ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน