ตร.ปคม.คุมตัวผู้ใหญ่บ้านโฉดข่มขืนสาวม้งแถลงข่าว รับแชทคุยทางเฟซบุ๊กก่อนนัดเจอแล้วพาเข้าโรงแรมลงมือมีเพศสัมพันธ์ถึง 5 ครั้ง ก่อนถ่ายภาพส่งลงโลกออนไลน์ เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าสาวม้งตกเป็นเมียของตนเอง

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 27 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. ปคม. และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายนพดล นวอริยะ อายุ 42 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง เลขที่ จ171 /2561 ลงวันที่26 ก.ค.2561 ในข้อหา ข่มขืน กระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น อ่านข่าว อดีตผญบ.รับมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งกับสาวม้ง แต่ไม่ได้ข่มขืน คุมตัวแถลงข่าวบ่ายนี้

คุมตัวไปดำเนินคดี

จากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมาก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวชาวม้ง อายุ 22 ปี มีการถ่ายภาพแชร์ไปให้บุคคลอื่นจนได้รับความเสียหาย ทำให้หญิงสาวชางม้ง เกิดความอับอาย กินยาฆ่าแมงจนเสียชีวิต ในวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา อ่านข่าว ญาติเคาะโลง บอกสาวม้ง จับผู้ใหญ่บ้านได้แล้ว ลั่นให้มาขอขมา ชาติหน้าไม่จองเวร

แถลงข่าวการจับกุม

พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า สืบเนื่องจากในพื้นที่สภ.เมืองลำปาง แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับอดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในจ.ตาก เนื่องจากถูกบังคับขู่เข็ญและข่มขื่นหญิงสาวชาวม้งวัย 22 ปี กระทั่งทางญาติเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้เร่งจับกุมนำเนินคดี อ่านข่าว รวบแล้วอดีตผู้ใหญ่บ้านลวงสาวม้งข่มขืน จนมุมที่ตาก เจ้าตัวยังปฏิเสธ

สอบสวนผู้ใหญ่บ้าน

ซึ่งคดีเกี่ยวกับเพศนั้นเป็นนโยบายสำคัญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้เร่งรัดจับกุมคดีที่เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน และเพศ จึงได้ให้ทาง บก.ปคม.ลงไปประสานข้อมูลกับ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ก่อนจะกดดันจนสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้บริเวณศาลาพักริมถนนตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิค อ.เมือง จ.ลำปาง และมีการเตรียมความพร้อมในการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

พล.ต.ต.กรไชย กล่าวต่อว่า สำหรับคดีได้ประสานข้อมูลและหาพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิน 24 ชม. ซึ่งนายนพดลให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและรู้จักกับสาวม้ง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน เพราะฝ่ายหญิงสมยอม และขอให้การในขั้นศาล

แต่อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ทั้งวีดีโอ คำให้การของเหยื่อ ความยาว 8 นาที ซึ่งเป็นคำให้การของคนที่กำลังจะเสียชีวิต ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญสุดท้ายของคนที่กำลังจะตาย มีหลักฐานเรื่องของพยานในพื้นที่และเอกสารจดหมายคำให้การของผู้เสียชีวิต แม้ว่าจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีทางจะหลบหนีความจริงได้ อีกทั้งแม้ว่าพยานหลักฐานสำคัญคือโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตจะสูญหาย รวมไปถึงมีการทำลายหลักฐานเสื้อผ้าในวันที่เกิดเหตุ แต่ก็เชื่อมั่นในหลักฐานที่มีอยู่

ผบก.ปคม. กล่าวว่า สำหรับเหตุการเริ่มด้วย นายนพดลผู้ต้องหาได้ติดต่อผู้คุยกับผู้เสียหายผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊กได้ประมาณ 2 อาทิตย์ และหลอกล่อ ก่อนส่งข้อความให้หญิงสาวชาวม้งมาเจอที่สถานีขนส่งจังหวัดลำปางเพื่อนำยาสมุนไพรให้ จากนั้นจึงพากันเข้าโรงแรม ก่อนจะข่มขืนถึง 5 ครั้ง และใช้มือถือของหญิงสาวชาวม้ง ถ่ายภาพส่งให้บุคคลอื่นในเฟซบุ๊กของเพื่อนผู้เสียหาย ซึ่งเป็นภาพขณะที่หญิงสาวชาวม้งนั่งอยู่บนเตียง โดยถ่ายผ่านศีรษะของนายนพดล

ซึ่งระหว่างที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม มีชายคนหนึ่งทักข้อความในแชทของฝ่ายหญิงมา นายนพดลคิดว่าเป็นแฟน จึงถ่ายภาพที่อยู่ด้วยกันในโรงแรมส่งกลับไป และยังส่งภาพเหล่านั้นให้กับแชทเฟซของกลุ่มเพื่อนผู้หญิง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะลงไปทานข้าว และซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้สาวม้งกิน เช้าวันรุ่งขึ้นไปส่งหญิงสาวที่บ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า ฝ่ายหญิงกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมขอโทษครอบครัวหญิงสาว ไม่ได้ตั้งใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามนายนพดลถึงการกระทำดังกล่าวอ้างว่า เพื่อจะให้คนอื่นๆรับรู้ว่า หญิงสาวชาวม้งคนดังกล่าวตกเป็นภรรยาของนายนพดล เพื่อที่จะบังคับให้ยอมเป็นเมียคนที่ 3 โดยใช้ประเพณีของชาวม้งมาข่มขู่ แต่ภายหลังเกิดเรื่องหญิงสาวชาวม้ง เกิดความอับอายจนต้องกินยาฆ่าตัวตาย หลังจากนี้จะได้ส่งมอบตัวให้สภ.เมืองลำปาง ดำเนินคดี และจะลงไปติดตามคดีจนกว่าคดีจะถึงสิ้นสุดแน่นอน

“ขณะนี้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายนพดลไปเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น คือข่มขืนกระทำชำเรา และใช้กำลังประทุษร้ายในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แต่ข้อหาอื่นยังอยู่ในการดำเนินการของพนักงานสอบสวน” พล.ต.ต.กรไชยกล่าว

ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับหลักฐานที่ตนได้แสวงหามานั้นค่อนข้างมัดผู้ต้องหาแน่น ทั้งคลิปวีดีโอที่ตนขอให้ทางน้องสาวผู้เสียชีวิตชาวม้งสอบถามขณะที่หญิงสาวชาวม้ง ได้รับการรักษาภายในห้องไอซียูอาการคือยาฆ่าแมลงเข้าไปทำลายอวัยวะภายใน จนไม่สามารถพูดคุยได้ จึงให้น้องสาวถามเป็นภาษาม้ง ส่วนผู้เสียชีวิตตอบโต้โดยการพยักหน้าและสายหน้า

รวมถึงชี้นิ้ว สำหรับคำถามสำคัญ ก็คือถูกบังคับไปหรือไม่ ผู้เสียชีวิตพยักหน้า และเต็มใจไปหรือไม่ ผู้เสียชีวิตก็ส่ายหน้า และยังชี้นิ้วไปที่ภาพของผู้ต้องหา ช่วยกันตามตัวมาดำเนินคดีอีกด้วย และจากการสอบถามยังพบว่า ขณะที่อยู่ในห้องมีเพียงนายนพดลและหญิงสาวชาวม้งเพียง 2 คนไม่มีผู้อื่น

จากการตรวจสอบประวัติผู้ใหญ่บ้านพบว่า สาเหตุที่ถูกไล่ออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้านเนื่องจากกระทำในลักษณะดังกล่าว จนถูกขับไล่