‘บิ๊กอวบ’ นำทีมคุม ‘ไอ้บ่าว’ ทำแผนนาที ‘เสี่ยอ้วน’ จ่อยิงหัว ‘สปาย-ฟอส’ ดับสยองคาลานจอดรถเขาชีจรรย์ หลังพบเห็นภาพบาดตาบาดใจของทั้งคู่ ก่อน ‘ไอ้บ่าว’ ชักปืนยิงซ้ำและขับรถหลับหนี ด้าน ผบช.ภ.2 เผยรู้แหล่งกบดาน ‘เสี่ยอ้วน’ แล้ว เชื่ออีกไม่นานได้ตัวแน่

จากกรณีนายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ร่วมกับพวกสังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี กับ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี จนเสียชีวิตอย่างเหี้ยม โหด หน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาลูกน้องของเสี่ยอ้วน ได้ทยอยเข้ามอบตัวจนครบทั้งทีมแล้ว

รอง ผบ.ตร. นำทีมคุมตัวไอ้บ่าว ทำแผนฆ่า 2ศพ

ประกอบด้วย นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี คนชี้เป้า, นายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือบอล อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ขับรถคุ้มกันก่อนพาหลบหนี แล้วนำปืน 4 กระบอกไปทิ้ง, นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือป๊อปปี้ อายุ 34 ปี ทำหน้าที่ขับรถเก๋งยาริสประกบ, นายกฤษณะ สีสุข หรือมด อายุ 22 ปี คนขับรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน กล 9444 ภูเก็ต คันที่ใช้ก่อเหตุ และนายณรงค์ หรือบ่าว วรินทรเวช อายุ 22 ปี มือปืนที่ลั่นไกสังหาร

ไอ้บ่าว ชี้จุดจังหวะเสี่ยอ้วนสังหารโหด 2ศพ

สปาย / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ที่เขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 และพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายณรงค์ มือปืนที่ลั่นไกสังหารน.ส.ปวีณา และนายอนันตชัย จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อทำการชี้จุดเกิดเหตุ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมกับนำรถยนต์ของผู้ต้องหาและรถยนต์ของผู้เสียชีวิตมาจอดไว้ในตำแหน่งที่เกิดเหตุด้วย

ทำแผนสังหารโหด 2 ศพเขาชีจรรย์

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายณรงค์ ให้การว่าในวันเกิดเหตุนายปัญญาได้นั่งอยู่ภายในรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ป้ายแดง โดยมีนายเกียรติศักดิ์ เป็นคนขับรถ ส่วนนายณรงค์นั่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งขับรถมาจอด โดยหันหน้าออกถนน ส่วนรถของน.ส.ปวีณาและนายอนันตชัยจอดรถอยู่ทางด้านหน้าซ้ายมือ และมีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส จอดขวาง ซึ่งเป็นรถของนายกฤษณะและนายจิรศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านในรถ

ไอ้บ่าว ชี้จุดเกิดเหตุบริเวณรถยนต์ของผู้เสียชีวิต

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า จากนั้น เมื่อนายปัญญาเห็นน.ส.ปวีณาและนายอนันตชัย กำลังจะเดินมาขึ้นรถ นายปัญญาจึงรู้สึกโกรธแค้น จึงได้เดินลงจากรถและใช้อาวุธปืน 2 กระบอกที่เตรียมมาจ่อยิงที่ศีรษะของน.ส.ปวีณา 2-3 นัด ก่อนที่จะล้มลงนอน ส่วนนายอนันตชัยเมื่อเห็นเหตุการณ์ก็ได้พยายามวิ่งหนีเข้าไปภายในรถ แต่นายปัญญาเห็นจึงได้หันกระบอกปืนมายิงนายอนันตชัยคารถยนต์ จากนั้น นายณรงค์ก็ยิงซ้ำก่อนจะพากันวิ่งขึ้นรถและขับหนีออกไปทันที

รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

“ซึ่งจากคำให้การของนายณรงค์ได้ให้การไปในทิศทางใกล้เคียงกันกับผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ โดยมีการระบุว่า ปมก่อเหตุครั้งนี้คือปมชู้สาว ซึ่งนายณรงค์ถูกนายปัญญา ว่าจ้างให้ลงมือก่อเหตุในราคา 5 หมื่นบาท พร้อมยอมรับว่ารู้ข้อมูลก่อนการลงมือยิงทั้งหมด ซึ่งนายปัญญาและนายจิรศักดิ์นั่งเครื่องบินจากจ.ภูเก็ต มาลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหารายอื่นขับรถยนต์มาสมทบ” รอง ผบ.ตร. กล่าว

นายณรงค์ หรือบ่าว วรินทรเวช อายุ 22 ปี มือปืนที่ลั่นไกสังหาร

ด้าน พล.ต.ท.จิตติ กล่าวว่า ส่วนการติดตามตัวนายปัญญานั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ และยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัว แต่ทางตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่จนพบข้อมูลและเบาะแสการหลบหนีของเสี่ยอ้วนแล้ว ว่าอยู่บริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ได้ควบคุมตัว ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะสามารถควบคุมตัวได้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านให้ความร่วมมือในการตามจับกุมตัวเป็นอย่างดี

จำลองเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุเสี่ยอ้วนยิง2ศพ

ส่วนข้อหาที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้กับนายณรงค์ ได้แก่ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน