เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปักหมุด 9 จุดก่อสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากร เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ขอสงวนสิทธิ์ ในการเข้าพื้นที่ไว้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ในส่วนของประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพยังคงดำเนินไปตามปกติ

ต่อมาเวลา 15.59 น. พล.อ.ธนะศักดิ์จุดธูปเทียนบูชาเครื่องสังเวยที่โต๊ะบรวงสรวง โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ วิบูลย์เวทย์บรมหงส์ พรหมพงศ์ พฤฒาจารย์ อ่านโองการบรวงสรวง จากนั้นประธานและผู้ร่วมพิธีโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวย

ต่อมาเวลา 16.15 น. เจ้าหน้าวิศวกรจากกรมศิลปากร นำหลักหมุดทั้ง 9 จุด ไปประจำไว้ที่โต๊ะรองรับ จากนั้นประธานและผู้ปักหมุดเดินทางไปประจำหลักหมุดที่กำหนดไว้ ซึ่งประธานจะปักหมุดด้วยไม้ทองหลาง ผู้ปักหมุดจะปักหมุดด้วยไม้พะยูง ซึ่งมีขนาดความกว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร

จากนั้นในเวลา 16.19 น. เมื่อพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีเริ่มเป่าสังข์แตรให้สัญญาณการปักหมุด โดยผู้ปักหมุดทั้งหมดจะหันหน้าไปทางพระบรมมหาราชวัง โดยเริ่มปักหมุดลงลึกตามลำดับที่กำหนดแเล้ว ผู้ปักหมุดโปรยดอกไม้โดยรอบบริเวณหลักหมุดทั้ง 9 จุด ทั้งนี้ ตลอดการทำพิธีบวงสรวงท้องฟ้าจากที่มีแสงแดดส่องร้อนอบอ้าวไปทั่วบริเวณ กลับถูกเมฆเข้าบัดบังและมีสายลมพัดตลอดเวลา ทำให้อากาศจากที่ร้อนอบอ้าวหายไป เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้เข้าร่วมพิธีอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า รายนามผู้ร่วมปักหมุดทั้ง 9 จุดประกอบด้วย ผู้ปักหมุดที่ 1 พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ผู้ปักหมุดที่ 2 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ผู้ปักหมุดที่ 3 นายกฤษณ์ กาญจนกุญชร ราชเลขาธิการ ผู้ปักหมุดที่ 4 ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการพระราชวัง ผู้ปักหมุดที่ 5 ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ผู้ปักหมุดที่ 6 นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดวธ. ผู้ปักหมุดที่ 7 นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ปักหมุดที่ 8 นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เมื่อผู้ร่วมพิธีทำการปักหลักหมุดครบแล้วจึงเป็นอันเสร็จพิธี

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นไปตามราชประเพณีโบราณ การตอกหมุดถือว่าเป็นขั้นตอนในการหาจุดกึ่งกลางของพระเมรุมาศ สำหรับการบวงสรวงนั้นถือว่าเป็นการประกอบพิธีเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยให้สำเร็จราบรื่นไปได้ด้วยดีต่อไป จากนั้น จะรอการส่งมอบพื้นที่จากกทม.เพื่อทำการกั้นรั้วเตรียมการสร้างพระเมรุมาศ โดยจะมีพิธีตอกเสาเข็มเอกและพิธีบวงสรวงอีกครั้ง โดยเรียนเชิญท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนมี.ค.2560

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อสร้างพระเมรุมาศแล้วเสร็จจะทำพิธียกนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุ โดยจะกราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นองค์ประธานในการยกฉัตร จากนั้นจะถือว่าการสร้างพระเมรุมาศเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อนเดือนก.ย.2560

สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศนั้น จะเปิดให้ชมเฉพาะรอบนอก เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดผลกระทบต่อสถานที่ แต่หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้วนั้นจะเปิดให้ชมภายในได้หรือไม่ ต้องขอปรึกษาหารือกันต่อไป เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน