ร้องมัสยิด 200 ปี ย่านบางอุทิศยอมลดเสียงละหมาดแล้ว หลังถูกร้องเรียนว่าเสียงดังรบกวนประชาชน เผยให้ความสำคัญเพราะต้องอยู่อาศัยซึ่งกันและกัน ชี้จะละหมาดวันละ 5 ครั้งๆ ละไม่เกิน 3-5 นาที

จากกรณีสำนักงานเขตบางคอแหลม ส่งหนังสือลงวันที่ 2 ต.ค. ถึงเจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 ระบุว่า ประชาชนร้องทุกข์ กรณีวัดไทรตีระฆัง ส่งเสียงดังตั้งแต่เวลา 03.30-04.00 น. ทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโด จนออกหนังสือสั่งให้หยุดใช้เสียงนั้น ต่อมาสำนักงานเขตบางคอแหลม ส่งหนังสือลงวันที่ 3 ก.ค. ถึง อิหม่ามมัสยิดบางอุทิศ ย่านพระราม 3 ขอความร่วมมือให้ระวังเรื่องเสียงดัง จากการประกอบพิธีทางศาสนา จากการใช้เครื่องขยายเสียง เวลา 04.00 น. จึงสั่งให้ควบคุมการใช้เสียง ให้ใช้เสียงในระดับที่เหมาะสม ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ผอ.เขต ขอโทษคำสั่งห้ามมัสยิดเสียงดัง! เตรียมลงพื้นที่พรุ่งนี้ วอนเข้าใจประเพณี

ร้องมัสยิด / เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่มัสยิดบางอุทิศ ซอยเจริญกรุง 99 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม นายสมบัติ หรือฮัจยีโด่ง วงศ์สมัย อายุ 68 ปี ที่ปรึกษาอิหม่าม มัสยิดบางอุทิศ เปิดเผยว่า มัสยิดแห่งนี้เป็นมัสยิดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 200 ปี ไม่เคยมีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนการส่งเสียงรบกวนมาก่อน และชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้ก็เข้าใจและไม่ก้าวก่ายกัน เพราะเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี ให้กำลังใจอิหม่าม

“เครื่องขยายเสียงที่ทางมัสยิดติดเอาไว้ ที่หันออกไปด้านนอกมัสยิดมีเพียงตัวเดียวอาจจะเสียงดังบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดังมากเกินไป ทั้งนี้ ทางมัสยิดได้รับบัตรสนเท่ห์ที่ไม่ระบุชื่อนามสกุล ร้องเรื่องเสียงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยจะมีบัตรสนเท่ห์ส่งมาเป็นระยะ และก็ลดระดับเสียงให้เบาลงแล้ว คนร้องเรียนก็ไม่ยอมเลิกร้อง จนทางเขตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร” นายสมบัติกล่าว

ที่ปรึกษาอิหม่าม กล่าวต่อว่า ทางสำนักงานเขตก็ส่งคนมาตรวจสอบหลายครั้ง โดยวัดระดับเสียงพบว่าไม่เกินระดับมาตรฐานที่ 80 เดซิเบล ส่วนคนที่ร้องเรียนทราบว่ามีเพียงคนเดียว และรู้ว่าเป็นใครเพียง แต่ไม่อยากเอ่ยถึง เพราะทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ถ้าเขาเดือดร้อนจริง ก็มีสิทธิ์ร้องเรียนได้ ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่เคยร้องเรียนเวลาที่สถานที่ท่องเที่ยวจัดงานใหญ่ๆ มีเสียงดังสะเทือนจนบ้านสั่น เพราะว่าเราอยู่อาศัยซึ่งกันและกัน

ด้าน นายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี เปิดเผยว่า ทางมัสยิดก็ยอมถอยและยอมลดเสียงลงมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในกทม.มีมัสยิดกว่า 180 แห่ง ก็ให้ความสำคัญในเรื่องของเสียง ที่จะไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ วันนี้ตนนำกระเช้าสุขภาพมามอบให้กำลังนายอนุสรณ์ องอาจ อิหม่ามประจำมัสยิดบางอุทิศ

นายอนุสรณ์ เปิดเผยว่า ทางมัสยิดให้ความร่วมมือกับทางสำนักงานเขตฯด้วยดีมาโดยตลอด โดยพูดคุยกับทางผอ.เขต ซึ่งมารับงานไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นภารกิจหน้าที่ของทางผอ.เขตที่จะต้องดำเนินการแก้ไข เพื่อให้เกิดความสะดวกและความเรียบร้อยในอนาคต

เบื้องต้นตนคิดว่าทางผอ.เขตก็ให้ความสะดวกเป็นอย่างดี และท่านคงดำเนินการแก้ไขเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยกับมัสยิดทุกมัสยิดในเขตบางคอแหลม เพราะมัสยิดแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ สร้างตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 ต้น รัชกาลที่ 6 จะละหมาดวันละ 5 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 3-5 นาที

การใช้เสียงเป็นการประกาศเชิญชวนว่า ได้เข้าสู่เวลาขอการปฏิบัติศาสนกิจแล้ว เป็นห้วงเวลาของการนมัสการพระผู้เป็นเจ้า บางคนสะดวกจะมามัสยิดก็จะมา หากไม่สะดวกก็จะปฏิบัติศาสนกิจที่บ้าน ก็เปิดเครื่องขยายเสียงออกไปด้านนอก ซึ่งในชุมชนบางอุทิศก็เป็นมุสลิมเสียส่วนใหญ่ ก็คงไม่มีความเดือดร้อนรำคาญให้กับใคร และผู้ร้องก็ไม่ได้ร้องเรียนมาอีกแล้ว

เมื่อถามว่า มีผู้ร้องเรียนเคยมาร้องที่มัสยิดหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะคนในละแวกนี้เป็นคนที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมเสียส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตนี้มากว่า 200 ปี ถือเป็นชุมชนดั้งเดิมที่อยู่กันมาเนินนาน จะมีคนส่วนน้อยที่มาอยู่ใหม่ เขาก็รับปรับสภาพกับบริบทของสังคมชุมชนได้เป็นอย่างดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน