อธิบดีสั่งทุกป่า อย่าเชื่อคำอ้างรู้จักคนใหญ่โต ซัดปลัด หมีขอ หลอกเจ้าหน้าที่
วันที่ 8 ต.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงคดีล่า หมีขอ ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือสำคัญด่วนที่สุดไปยังทุกพื้นที่ของกรมอุทยานฯ สั่งการต่อไปนี้ใครอ้างว่าได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ หรือผู้บริหารคนใดของกรมอุทยานฯก็แล้วแต่ ต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านโดยตรง หากใครไม่มีหมายความว่าบุุคคลนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป เพราะมีกรณีการกล่าวอ้างแบบนี้บ่อยครั้ง
“ครั้งนี้ถือเป็นไหวพริบของเจ้าหน้าที่ เพราะคณะออฟโรดดังกล่าว อ้างว่าได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯไทรโยคแล้ว ซึ่งความจริง ผมสอบถามจากหัวหน้าอุทยานฯไทรโยคแล้ว เขาบอกว่า ไม่เคยอนุญาตให้คณะออฟโรดของปลัดอำเภอคนนี้เข้าพื้นที่เลย โดยในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าหัวหน้าอุทยานฯอนุญาต เพราะหากหัวหน้าอนุญาตจะประสานไว้ล่วงหน้า เท่ากับคณะออฟโรดชุดนี้ หลอกเจ้าหน้าที่ด้วย”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อุทยานฯคนดังกล่าว ได้เดินออกมาเพื่อหาสัญญาณโทรศัพท์ อีกประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อโทร.หาหัวหน้าอุทยานฯ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ถึงได้รับการยืนยันว่าไม่เคยมีการอนุญาตใครเข้าไปในพื้นที่ โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของตำรวจเข้าพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานทั้งหมดแล้ว ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน
อ่าน กรมอุทยานรับ! คดี หมีขอ ไทรโยค หลักฐานอ่อนกว่าคดี เสือดำ เปรมชัย
ขณะที่นายดำรัส โพธิประสิทธิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.)ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) อดีตผอ.สบอ.ที่ 3 (บ้านโป่ง) ก่อนมีการโยกย้ายตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา กล่าวว่า เบื้องต้นกรมอุทยานฯ แจ้งข้อกล่าวหาไว้ทั้ง 9 ข้อหาแล้ว ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาให้การว่า ซื้อซากหมีขอมาจากพื้นที่อื่นนั้น ผู้ต้องหาสามารถให้การอะไรก็ได้ ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บหาพยานหลักฐาน ซึ่งอาจได้บางอย่างเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหา
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล แต่มั่นใจว่าเอาผิดได้ทั้ง 9 ข้อหา นอกจากนี้กรมอุทยานฯ ได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจเพื่อสืบสวนขยายผลหาประวัติบุคคล รวมทั้งทะเบียนรถยนต์ทั้งหมด ว่าเคยมีประวัติอาชญากรรม เกี่ยวข้องกับคดีล่าสัตว์หรือกระทำผิดอื่นๆ อีกหรือไม่
