พ่อ เผยสาเหตุคาใจปมลูก เมายาคลั่ง เสียชีวิต หลังก่อเหตุตีตำรวจจนสาหัส แพทย์ ระบุสาเหตุการตายกะโหลกศีรษะแตก-เลือดคลั่งในสมอง ด้าน รอง ผกก.สส.สภ.ภักดีชุมพล เตรียมชาวบ้านเห็นเหตุการณ์สอบ ยันตำรวจไม่ได้ซ้อมผู้ต้องหา

จากกรณี นายวายุ เกิดอาการ เมายาบ้า จนคลุ้มคลั่ง และก่อเหตุกระโดดถีบและใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตี ร.ต.ท.วิทยา อาจหาญ รอง สวป.สภ.ภักดีชุมพล จนบาดเจ็บสาหัสมีเลือดคลั่งในสมอง บริเวณถนนภายในหมู่บ้านแหลมทอง ม.1 ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ จนต้องนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนนายวายุหลังก่อเหตุได้ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ก่อนจะเกิดอาการช็อกตาค้างและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา

พ่อร่ำไห้รับศพลูก เมายาคลั่ง หลังก่อเหตุตีตำรวจ

พ่อร่ำไห้รับศพลูก เมายาคลั่ง หลังก่อเหตุตีตำรวจ

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายประดิษฐ์ กัญญาประสิทธิ์ อายุ 50 ปี พ่อของ นายวายุ พร้อมกับ พ.ต.ท.กฤษฎา ชฎาแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เดินทางมารับศพนายวายุ

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย โดยเชื่อว่าตำรวจใช้ไม้หน้าสามตีลูกชายจนเสียชีวิต เนื่องจากตัวเองเป็นคนแรกที่เข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ที่ลูกชายใช้ไม้ทำร้ายตำรวจจนบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้นตำรวจที่ชื่อ “เอก” ได้ใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีลูกชายประมาณ 5 ครั้ง โดยที่ลูกชายไม่ได้ตอบโต้ ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไปยัง สภ.ภักดีชุมพล ระหว่างที่ถูกคุมตัวภายในห้องขัง ทางครอบครัวได้นำยาแก้ปวดไปให้นายวายุรับประทาน

พ่อเข้ารับศพลูกเมายาคลั่ง

พ่อเข้ารับศพลูกเมายาคลั่ง

นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเช้าวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ทราบข่าวว่านายวายุเสียชีวิตแล้ว จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินคดีอย่างเป็นกลาง โดยนายวายุติดยาเสพติดจริง และติดมานานแล้ว รวมทั้งคลุ้มคลั่งจากการติดยาเสพติด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดี จนกระทั่งวันเกิดเหตุ เกิดอาการคลุ้มคลั่งและใช้อาวุธไล่ทำร้ายตำรวจ โดยหลังเกิดเหตุ ตัวเองเป็นคนให้ตำรวจ ควบคุมตัวลูกชายไปที่โรงพัก แทนที่จะพาไปส่งโรงพยาบาล เพราะเกรงว่าลูกชายจะอาละวาดคนที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่ก็ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาให้นำศพของนายวายุ มาชันสูตรพลิกศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากโรงพยาบาลที่ภักดีชุมพล ไม่สามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายวายุได้ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือซ้อมนายวายุบนโรงพักระหว่างการควบคุมของตำรวจ ตามที่มีกระแสข่าว การนำร่างของนายวายุมาตรวจเพื่อหาสารเคมีที่ตกค้างในร่างกายของนายวายุ

พ่อของหนุ่ม เมายาคลั่ง ติดต่อรับศพ

พ่อของหนุ่ม เมายาคลั่ง ติดต่อรับศพ

พ.ต.ท.กฤษฎา กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะสารเสพติดที่นายวายุเสพ จนเกิดอาการคุ้มคลั่ง และยาที่ญาตินำไปให้นายวายุรับประทานก่อนที่จะเสียชีวิต ให้แพทย์ที่ชันสูตร เป็นผู้ชี้ชัดว่า นายวายุ เสียชีวิตจากสาเหตุการถูกทำร้ายร่างกาย หรือว่าเสียชีวิตจากยาที่รับประทาน ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำบุคคลใดได้ เนื่องจากตำรวจที่เข้าระงับเหตุได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย หลังจากนี้จะเรียกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งพยานแวดล้อมเข้ามาให้ปากคำกับทางคำรวจด้วย

ด้าน แพทย์นิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เผยผลการผ่าชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิตของนายวายุ เบื้องต้นว่า เกิดจากกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดคลั่งในเหยื่อบุสมอง จากการถูกกระทบกระแทก

นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

ขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย รรท.ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชันจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ตรวจสอบเหตุและดูแลเร่งรัดคดี โดยกำชับให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทราบว่ามีการแยกคดีเป็น 2 คดี คือ คดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ และกรณี นายวายุ เสียชีวิต

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่เข้าพักรักษาตัว ทาง ผบ.ตร.พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยตนเอง พร้อมกำชับให้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ ร.ต.ท.วิทยา พึงได้รับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน