ทนายตั้ม เอาคืน! โร่แจ้งความจับ “อัจฉริยะ” พร้อม “รองผกก.บางปะอิน” ปมสมคบกันสร้างหลักฐานเท็จ หลังทำให้สองสามีภรรยาเดือดร้อนที่นำข้อมูลส่วนตัวไปเผยแพร่ในโซเชียล จี้ สอบข้อเท็จจริง-ดำเนินคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายเศรษฐ์ เดชสุภา อายุ 37 ปี และ น.ส.รักชนก เจริญมากสุข อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผกก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม และ พ.ต.ท.นายหนึ่งของสภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในข้อหาสมคบกันสร้างหลักฐานเท็จ และปลอมแปลงเอกสารราชการ

นายษิทรา กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ นายเศรษฐ์ และ น.ส.รักชนก สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความที่สภ.บางปะอิน เพื่อดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะไว้ที่ สภ.บางประอิน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีการนำข้อมูลส่วนตัวของ นายเศรษฐ์และภรรยาไปโพสต์ไว้ตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแอดมินเพจ “โหลกแดง” หรือ “Red Skull” ซึ่งมีปัญหาความขัดแย้งกับนายอัจฉริยะ

“ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจสอบที่กรมการปกครองพบว่า ผู้ที่เข้าไปสืบค้นข้อมูลและดึงข้อมูลคือ พ.ต.ท.นายหนึ่ง จึงเข้ามาแจ้งความและขอลงบันทึกประจำวัน เพราะทำให้นายเศรษฐ์และครอบครัวถูกคุมคาม โดยมีผู้ส่งข้อความข่มขู่ และโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าอีกด้วย” ทนายตั้ม กล่าว

นายษิทรา กล่าวต่อว่า ส่วนการแจ้งความครั้งนี้ เนื่องจากพบหลักฐานว่าที่ นายอัจฉริยะ ไปลงประจำวันที่สภ.บางปะอิน เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2561 ตามหลักฐานระบุว่า เพจเฟซบุ๊ก Red Skull ได้โพสต์ข้อความใส่ร้ายให้นายอัจฉริยะได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความกับ พ.ต.ท.รายดังกล่าว ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวน เพื่อให้แกะรอยนายเศรษฐ์และภรรยา และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ เพิ่มเพื่อน

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ซึ่งเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพราะตามหลักฐานบันทึกประจำในวันที่ 28 พ.ย.นั้น เป็นการลงบันทึกหลักฐานย้อนเวลา มีการเซ็นชื่อผิดตำแหน่ง และยังผิดระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อีกด้วย ตนจึงเดินทางเข้ามาร้องกองปราบฯเพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้าน นายเศรษฐ์ กล่าวว่า การที่นายอัจฉริยะนำข้อมูลส่วนตัวของตนและภรรยามาเปิดเผย เพราะคิดว่า ตนเป็นเจ้าของเพจกะโหลกแดง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ จะมีก็เพียงเข้าไปแสดงความคิดเห็นเท่านั้น จึงอยากสอบถามว่า ทำไมตำรวจท่านนี้ถึงได้นำข้อมูลของตนออกมาแล้วไปทำการแจกจ่าย สร้างความเดือดร้อนให้กับตน จึงอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องของการนำข้อมูลส่วนตัวของประชาชนออกไปให้กับนายอัจฉริยะได้อย่างไรอีกด้วย

เบื้องต้น พ.ต.ท.จตุพร ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน