หัวใจสลาย! ‘น้องแพร’ ปล่อยโฮ หลังญาติตัดสินใจบอกข่าวร้าย พ่อแม่ถูกเสี่ยเบนซ์เมาขับชนเสียชีวิต ครอบครัวให้โอกาสเสี่ยเบนซ์ไถ่โทษ หลังรับปากจะดูเเลหลานให้ดีที่สุด

กรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของโรงงานอะไหล่ยนต์ ขับรถเบนซ์พุ่งชนรถซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ อายุ 48 ปี รองผกก.ป. และนางนุชนาฏ งามสุวิชชากุล อายุ 43 ปี สองสามี-ภรรยาเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกสาวคนเล็กอายุ 12 ปี ที่นั่งมาด้วย มีอาการบาดเจ็บอาการสาหัส และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เสี่ยเบนซ์ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของ นางนุชนาฏ ภรรยา พ.ต.ท.จตุพร กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของด.ญ.พิญาภา งามสุขวิชชากุล อายุ 12 ปี หรือ น้องแพร
หลานสาวว่า ขณะนี้ก็ดีขึ้นมาก เริ่มพูดได้เเล้ว เเละถามหาพ่อกับเเม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งทางญาติบอกความจริงกับหลานเเล้ว ทำให้หลานก็ร้องไห้เพียงอย่างเดียว โดยก่อนหน้าตอนที่ยังไม่ได้บอกความจริง เวลาไปเยี่ยมญาติทุกคนจะใส่เสื้อผ้าสีอื่นเข้าไป เพื่อไม่ให้หลานสงสัย

ส่วนผู้ก่อเหตุหลังจากที่ได้กราบขอขมาผู้ตาย และบอกว่าจะบวชให้นั้น ตนเเละญาติๆ ก็เข้าใจว่ามันคืออุบัติเหตุ ส่วนเรื่องทางกฎหมายก็ต้องดำเนินไป เเละเข้าใจว่าเขารู้สึกผิด เเละเขาก็พยายามที่จะเเก้ไขให้ดีที่สุด ซึ่งทางเราก็ให้โอกาสเขา ที่เขาอยากจะไถ่โทษ ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่า ในเมื่อเขาได้โอกาสจากเราเเล้ว เขาจะใช้โอกาสที่ได้มาได้ดีเเค่ไหน โดยเขารับปากว่าจะดูเเลหลาน 2 คนให้ดีที่สุด ซึ่งทางเราก็มั่นใจเขา

น.ส.ขนิษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับนางนุชนาฏน้องสาวเป็นคนจิตใจดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร เเละไม่เคยทะเลาะกับใคร เเม้เเต่กับสามีที่อยู่ด้วยกันมา 20 ปี ก็ยังไม่เคยทะเลาะกันเลย นอกจากนี้ น้องสาวยังเป็นคนที่เรียนเก่ง เเละสอบได้ทุนเรียนดีมาโดยตลอด เเละยังเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ซึ่งวันที่เกิดเหตุ น้องสาว-สามี เเละหลานสาว กำลังเดินทางกลับหลังจากไปเลี้ยงวันเกิดของหลานสาวเอง ซึ่งก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุใดๆ

“ในอดีตครอบครัวไม่มีกำลังจะส่งเสียให้เรียน เราจึงเสียสละหยุดเรียน เพื่อให้นางนุชนาฏน้องสาวเรียนต่อ เเละบอกกับน้องสาว ว่ามอบอนาคตให้น้องสาวเเล้ว เเละเขาก็ทำได้ดีที่สุด หลังจากที่น้องสาวเรียนจบ ก็ได้งานเป็นพยาบาลทันที เเละมอบเงินเดือนเดือนเเรกให้เเม่ เเต่ด้วยน้องสาวเเละสามี รับงานราชการทั้งคู่ เเละต้องทำงานเข้ากะเหมือนกัน จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูเเลลูก น้องสาวจึงตัดสินใจลาออกจากงานพยาบาล เเล้วมาทำงานที่บริษัทประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง เพื่อที่จะมีเวลาให้ลูกสาวทั้ง 2 มากขึ้น น้องสาวเป็นทุกอย่างของครอบครัว การสูญเสียน้องสาวไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงเปรียบเหมือนการเสียเสาหลักของครอบครัวไป” น.ส.ขนิษฐา กล่าว

น.ส.ขนิษฐา กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน ครอบครัววางเเผนว่าจะไปเที่ยวพัทยา ซึ่งจองที่พักไว้เเล้ว เเต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้ยังคิดไม่ออก ว่าจะทำอย่างไรต่อไป จากที่เมื่อก่อนเคยไปเที่ยวด้วยกันทุกวันหยุด เคยอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งภาพเหล่านั้นจะไม่มีอีกต่อไปเเล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ตอนนี้ถ้าน้องสาวรับรู้อยากบอกกับน้องสาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร หลับให้สบาย พี่จะดูเเลลูกทั้งสองคนให้เอง เเละจะดูเเลพ่อกับเเม่เเทนน้องด้วย” น.ส.ขนิษฐา กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน