ราชทัณฑ์ แจงปม ผู้ต้องกักขัง คดีเมาขับ ตายในคุก ‘ณรัชต์’ เสียใจ-รุดลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง ตั้งกรรมการสอบ-สั่งย้ายผบ.คุกศรีสะเกษ-หัวหน้าสถานกักขัง เชื่อถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้าย

จากกรณี นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ในเขตพื้นที่ สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาวันที่ 15 เม.ย. ถูกส่งตัวไปศาลจังหวัดศรีสะเกษ โดยศาลสั่งปรับข้อหาเมาแล้วขับเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงติดคุกแทนค่าปรับ ต่อมาเช้าวันที่ 18 เม.ย. ได้รับแจ้งว่า ลูกชายเสียชีวิตขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีญาติของผู้ต้องกักขัง คดี พ.ร.บ.จราจรทางบก เมาแล้วขับ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการเสียชีวิตภายในสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ในนามของของกรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต และเมื่อทราบเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เดินทางไปตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า พบว่าห้องที่ใช้กักขัง มีขนาด กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร แต่มีผู้ต้องกักขังล้นห้อง โดยอยู่กันถึง 236 คน ซึ่งแออัดมาก จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน ให้ทราบผลภายใน 7 วัน ระหว่างนี้จะได้มีคำสั่งย้าย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าสถานกักขังเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษไปประจำกรม เพื่อเป็นตัวอย่างให้เรือนจำอื่น ๆ ได้เพิ่มความระมัดระวัง ไม่ให้เกิดข้อบกพร่องและความเสียหายในลักษณะนี้ขึ้นอีก

“โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เชื่อว่าผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำ เชื่อว่าอาจจะถูกเพื่อนผู้ต้องกักขังในห้องเดียวกันทำร้ายมากกว่า อย่างไรก็ตาม ได้ประสานงานกับพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด โดยในชั้นนี้คงต้องปล่อยให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ และรอผลการตรวจพิสูจน์ศพทางนิติเวชมาประกอบ จึงจะมีความชัดเจนขึ้นว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด และผู้ใดทำให้เสียชีวิต” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวยืนยันว่า จะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม หากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา โดยตนได้เดินทางไปเคารพศพและร่วมฟังพระสวดอภิธรรมผู้เสียชีวิต ที่บ้านในอ.ขุขันธ์ และได้มอบเงินสดส่วนตัวให้แม่ของผู้เสียชีวิตจำนวน 1 แสนบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน