แม่ ร้องกระทรวงยุติธรรม ตั้งกรรมการสอบปม ลูกตายในคุก แฉภาพแผลเต็มตัว! มั่นใจไม่ใช่อุบัติเหตุ ด้าน ทนายรณณรงค์ ท้าเปิดกล้องวงจรปิด จี้ยธ.ให้ความเป็นธรรมครอบครัว
จากกรณี นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ในเขตพื้นที่ สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาวันที่ 15 เม.ย. ถูกส่งตัวไปศาลจังหวัดศรีสะเกษ โดยศาลสั่งปรับข้อหาเมาแล้วขับเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงติดคุกแทนค่าปรับ ต่อมาเช้าวันที่ 18 เม.ย. ได้รับแจ้งว่า ลูกชายเสียชีวิตขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่านข่าว : แม่ร้องลูกตายในคุก แพทย์ชี้ศีรษะถูกกระแทกรุนแรง ลั่นไม่เผาศพ จนกว่าจะจับคนร้ายได้
- อ่านข่าว : ราชทัณฑ์ สั่งย้ายผบ.คุกศรีสะเกษ ปมผู้ต้องกักขังดับในคุก เชื่อเพื่อนร่วมห้องทำร้าย
ล่าสุดวันที่ 24 เม.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และ นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายและผลชันสูตรพลิกศพ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมทั้งเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว และตั้งทนายในด้านคดี
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนพานางสุรินทร์มายื่นเรื่องเพื่อร้องขอความเป็นธรรม ภายหลังจาก นายพรหมปัญญา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปรือใหญ่ จ.ศรีสะเกษ จับกุมในความผิดฐานขับขี่รถในขณะมึนเมาสุรา จากนั้น ถูกส่งตัวไปกักขังแทนการเสียค่าปรับจำนวน 6,000 บาท เนื่องจากฐานะทางครอบครัวไม่เอื้ออำนวย ภายในเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเสียชีวิตอย่างปริศนาเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมระบุว่า ช็อกหมดสติเนื่องจากลื่นล้ม ซึ่งต่างจากทีมแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษที่ลงความเห็นระบุว่า ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และมีแผลรอยฟกช้ำตามร่างกาย ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงติดใจถึงสาเหตุการตาย เนื่องจากในห้องขังมีผู้ถูกคุมขังเป็นจำนวนมาก ไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุได้ และคาดว่าถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ การเสียชีวิตในระหว่างถูกคุมขังเป็นการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องรับผิด
“ผมอยากมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางสุรินทร์ ซึ่งนางสุรินทร์ไม่เชื่อว่าลูกชายจะเสียชีวิตด้วยการหกล้ม เพราะเมื่อคุณแม่เห็นศพแล้ว ไม่เชื่อเลยว่าเป็นการหกล้ม แต่เมื่อคุณแม่ขอกล้องวงจรปิดกับทางเจ้าหน้าที่ กลับถูกปฏิเสธ มีเพียงกล้องวงจรปิดเท่านั้นที่รู้ว่าลูกเขาตายยังไง การที่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเอาภาพวงจรปิด หรือหลักฐานสำคัญให้กับทางครอบครัวเขาดูถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกเขา ผมคิดว่าเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมต้องเข้ามาช่วยตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ทางครอบครัวเกษหอม” นายรณณรงค์ กล่าว
นายรณณรงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้พวกเขาเดินทางมาจากจ.ศรีสะเกษ เพื่อมาขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงยุติธรรม ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบให้กับครอบครัวเกษหอม ถึงสาเหตุการตายของลูกชายเขา ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ท้องที่ก็ได้มีการประสานความคืบหน้ามาบ้างแล้ว แต่ยังไม่อยากให้ตนพูดอะไรมาก แต่ที่มาวันนี้ทางครอบครัวต้องการความชัดเจนในอะไรหลายอย่าง
“โดยเฉพาะเรื่องที่จะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้คุมเกี่ยวข้องด้วย มีเจ้าหน้าที่ขอรัฐลากลูกเขาไปกระทืบหรือไม่ ทางครอบครัวเกษหอมต้องการความชัดเจนเรื่องนี้ เมื่อทางครอบครัวทราบสาเหตุการเสียชีวิต และใครเป็นคนฆ่าแล้ว ทางครอบครัวจะได้จัดงานศพนายพรหมปัญญา เกษหอม ต่อไป” นายรณณรงค์ กล่าว
ด้าน นางสุรินทร์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวก็สงสัยว่าต้องมีคนทำร้ายร่างกายลูกชายจนเสียชีวิต ตนมั่นใจว่าไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหกล้ม เพราะในวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา วันที่ไปรับศพลูกชาย ตนเห็นว่าลูกมีรอยปากแตกและฉีก และบริเวณลำคอมีรอยฟกช้ำเหมือนโดยทำร้าย ร่วมทั้งตามร่างกาย สะโพก
“แม่จึงเชื่อว่าลูกน่าจะไม่เสียชีวิตด้วยการหกล้ม แต่ต้องมีคนทำให้ตายอย่างแน่นอน แม่จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายของแม่ก็ไม่เคยมีรอยฟกช้ำใด ๆ เลย จึงเดินทางมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในวันนี้” นางสุรินทร์ กล่าว
