จากกรณีนายณัฐศักดิ์ คำเขิน อายุ 46 ปี ใช้มีดปาดคอ น.ส.กิ่งแก้ว พงศ์ไพโรจน์ อายุ 25 ปี ด.ญ.ฟิล์ม อายุ 1 ปี 3 เดือน และ ด.ญ.ใบเฟิร์น อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นภรรยาและลูกสาวเสียชีวิต ก่อนจะใช้อาวุธแทงตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตายตาม แต่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันและพ้นขีเอันตรายแล้ว เหตุเกิดในร้านเอ็น ซี ออโต้ซาวด์ ถนนหทัยราษฎร์ ระหว่างซอยหทัยราษฎร์ 31-33 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่าเกิดจากปัญหาหนี้สินจำนวน 20,000 บาท แต่ต้องหาเงินจ่ายวันละ 8,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 เม.ย. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า นายณัฐศักดิ์ อาการปลอดภัยแล้วสามารถให้ปากคำผ่านการเขียนข้อความลงในกระดาษ จำนวน 4 แผ่น ประกอบกับพูดคุยเล็กน้อย รับสารภาพว่าลงมือทำร้ายทั้ง 3 คน จนเสียชีวิตจริง โดยที่ทุกคนยินยอมต้องการใช้วิธีนี้เพื่อยุติปัญหาเรื่องเงิน ที่ใช้จ่ายภายในครอบครัวไม่เพียงพอ ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ได้พูดคุยปรึกษากับภรรยา ก่อนกินยากล่อมประสาทแล้วลงมือก่อเหตุดังกล่าว

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่อว่า ส่วนปมเหตุที่ทำให้เชื่อว่าเป็นประเด็นที่ต้องตัดสินใจก่อเหตุ ตำรวจยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าเป็นเรื่องการกู้เงิน หรือ ปัญหาภายในครอบครัว แม้ว่าคำให้การผู้ก่อเหตุจะอ้างว่าเป็นปัญหาในครอบครัวแต่จะต้องรอข้อมูลพยานหลักฐานจากชุดสืบสวนมาประกอบกัน หากสาเหตุเกิดจากเงินกู้นอกระบบจริงก็จะเร่งสืบสวน ติดตามหาผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพราะถือเป็นนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปาก ขณะที่ผู้ก่อเหตุตำรวจได้อายัดตัว และให้เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษเพราะเกรงว่าอาจจะทำร้ายตัวเอง โดยพิจารณาดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” เพราะมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่นมีดในการก่อเหตุ นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังมีอาการโศกเศร้าหลังจากได้ก่อเหตุ ช่วงบ่ายวันนี้ตนได้เรียกประชุมชุดทำคดี เพื่อสรุปหาสาเหตุครั้งนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง สำหรับการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุไม่พบว่าเคยต้องคดีอาญา หรือ มีพฤติกรรมดื่มสุรา เป็นคนขยันทำงาน และรักครอบครัว ไม่เคยมีปัญหากับใคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน