ไล่เช็กวงจรปิดล่าโจรปล้น นาฬิกาหรู ขอศาลออกหมายจับ เชื่อวางแผนมาอย่างดี

เร่งขอศาลออกหมายจับคนร้ายที่ฉก นาฬิกาหรู ริชาร์ด มิลล์ ค่ากว่า 5 ล้าน เผยคนร้ายวางแผนเส้นทางหลบนี้มาเป็นอย่างดี เชื่อขณะนี้นาฬิกายังไม่ถูกขายต่อ

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่และชิงทรัพย์นาฬิกา ริชาร์ด มิลล์ (Richard Mille) รุ่น RM 011-03TI มูลค่าประมาณ 5,280,000 บาท จาก นายณเสฏฐ์ ทวีพสิษฐ์กุล อายุ 34 ปี นักธุรกิจโรงงานขายเหล็กจ.สงขลา และแลกเปลี่ยนซื้อขายนาฬิกาหลบหนีไป บริเวณโรงแรมเดอะควอเตอร์ ลาดพร้าว ภายในซอยลาดพร้าว 4 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

• อ่านข่าว เร่งล่าหนุ่มวางแผนฉก ริชาร์ด มิลล์ ได้เบาะแสรูปพรรณ เส้นทางหลบหนีแล้ว!
• อ่านข่าว โจรลวงไฮโซปล้นริชาร์ดมิลล์เรือนละ 5 ล้าน ปืนยิงหน้าโรงแรมดังย่านลาดพร้าว!
• อ่านข่าว เร่งตามล่า โจรชิงนาฬิกาหรู ริชาร์ดมิลล์ 5 ล้าน เผยคนร้าย ใส่ของแบรนด์เนมทั้งตัว
• อ่านข่าว เปิดวงจรปิด นาทีโจรปล้นนาฬิกาหรู 5 ล้าน ชักปืนรัวยิงใส่ไฮโซหนุ่ม (คลิป)

นาฬิการหรู / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ขณะนี้เราได้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องแล้วพอสมควร แต่รายละเอียดไม่ขอเปิดเผยมากนัก เกรงคนร้ายจะไหวตัว ขอสื่อมวลชนเข้าใจการทำงานของตำรวจ เพราะเป้าหมายคือต้องการจับคนร้ายให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนร้าย ตามภาพที่ปรากฎควบคู่ไปกับติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ขณะที่ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี แต่พบอุปสรรคว่าภาพไม่ชัดเจน เนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอ

เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาอย่างดีที่จะมาก่อเหตุ ขณะเดียวกัน พบว่าเบอร์ที่คนร้ายใช้ติดต่อกับผู้เสียหายหลังเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมกับแนวทางการสืบสวนพบว่าก่อนหน้าเกิดเหตุไม่กี่วัน คนร้ายซื้อซิมแบบเติมเงิน เมื่อก่อเหตุเสร็จคาดว่าอาจจะทิ้งซิมดังกล่าวไปแล้ว ทำให้ขาดความเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิด

ขณะเดียวกันก่อนที่ผู้เสียหายจะถูกฉกนาฬิกาไปนั้น มีการโพสต์ข้อความขายนาฬิกาเรือนดังกล่าวทั้งทางกลุ่มเฟซบุ๊กและกลุ่มทางแอพลิเคชั่นไลน์ รวมกว่า 10 กลุ่ม ก่อนจะมาเจอคนร้ายที่แฝงมาในคราบของลูกค้า และมีผู้ติดต่อสนใจขอดูนาฬิกาเรือนดังกล่าว 2 ราย แต่พบพิรุธและไม่น่าไว้วางใจ ทางผู้เสียหายจึงบอกปฏิเสธไป กระทั่งมานัดดูของกับคนร้ายรายนี้ และความเป็นไปได้สูงที่ขณะนี้นาฬิกายังอยู่กับคนร้าย ไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใด เพราะกำลังเป็นข่าวที่ครึกโครม