วันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข ผกก.สภ.เมืองชัยนาท เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ได้ทราบข้อมูลจากเด็กนักเรียน ชั้น ป.6 ที่คุยกันผ่านกลุ่มไลน์ ว่ามีนักเรียนหญิงคนหนึ่งชั้น ป.6 อายุ 12 ปี ถูกพ่อเลี้ยงละเมิดทางเพศ จึงได้เรียกมาสอบถาม พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท มาร่วมกันสอบปากคำเด็ก ทำให้ทราบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ถูกพ่อเลี้ยงกระทำลวนลามและทำอนาจาร ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทางโรงเรียนจึงได้แจ้งให้แม่เด็กทราบและรับตัวมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยนาท

จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค. ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดชัยนาท ออกหมายจับพ่อเลี้ยงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยได้ตามไปจับกุมตัวที่สถานีวิทยุชุมชน ซึ่งผู้ต้องหาไม่ได้ขัดขืน ยอมให้ตำรวจจับกุมตัวโดยดี โดยให้การปฏิเสธ

ในวันนี้พนักงานสอบสวน ได้นำตัวผู้ต้องหา ไปฝากขังกับศาลจังหวัดชัยนาท และได้คัดค้านการประกันตัว

ส่วนเรื่องที่มีคนนำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ลงในโลกโซเชียลและมีการแสดงความคิดเห็น ต่อว่าด่าทอแม่ของเด็กหญิงอย่างรุนแรง โดยระบุว่า แม่เด็กหญิงมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของพ่อเลี้ยงด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ชัชพิมุข กล่าวว่า จากการสอบสวนแม่เด็กไม่ได้รู้เรื่องกับการกระทำของสามี การที่คนนำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปโพสต์ลงในโซเชียล ทำให้แม่เด็กเกิดความเสียหาย ซึ่งแม่เด็กได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่นำข้อมูลไปโพสต์ลงในโซเชียลแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับแม่เด็กหญิง ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้รับรู้เรื่องการกระทำของสามี เมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจมาก และเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องลูกได้ และได้พาลูกเข้าแจ้งความทันที พร้อมกับพาออกนอกพื้นที่โดยทันที และไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับสามีอีกเลย

จนกระทั่งสามีถูกตำรวจจับกุมและถูกขังไว้ที่ สภ.เมืองชัยนาท ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาหา แจ้งว่าสามีมีอาการเครียด เกรงว่าจะก่อเหตุฆ่าตัวตาย จึงขอให้ตนพูดคุยและไปเยี่ยม ตนจึงได้เดินทางไปเยี่ยมซื้ออาหารและน้ำไปให้ พูดคุยด้วย 2-3 คำ จากนั้นก็เดินทางกลับ ต่อมาในโลกโซเชี่ยล ได้นำรูปภาพของตน ไปเขียนกล่าวหา ว่าตนมีส่วนรู้เห็นกับสามีด้วย ซึ่งไม่เป็นความจริง และการที่ตนไม่ได้แสดงอาการโวยวายออกมา ก็เพราะกลัวอันตรายจะเกิดกับลูกสาวและลูกชายของตน รวมทั้งตนเองที่ยังต้องเดินทางมาดูแลธุรกิจที่ทำร่วมกันอยู่

อย่างไรก็ตามล่าสุด พ.ต.อ.ชัชพิมุข กล่าวว่า จากการสอบถามเด็ก ทราบว่าเด็กเรียนในห้องที่มีครูก่อเหตุอนาจารนักเรียน ที่เป็นคดีอยู่ตอนนี้ แต่ไม่ได้เป็นหนึ่งในเหยื่อของครู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน