ตำรวจ เผยสอบปากคำ ‘จ่านิว’ แล้ว! เผยรูปพรรณคนร้าย ให้การตรงกับพยานรวม 5 ปาก เจ้าตัว ยันปมถูกทำร้ายไม่ใช่เรื่องหนี้สิน ด้าน แม่เตรียมบุกยื่นหนังสือถึง “บิ๊กแป๊ะ”
จากกรณีชายฉกรรจ์ 4 คน รุมทำร้ายร่างกาย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว จนบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 109 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ก่อนมีพลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่านข่าว : รู้แล้ว! ตำรวจ เปิดเส้นทาง 4 คนร้าย อุกอาจ รุมฟาดจ่านิว ชัดๆจาก กล้องวงจรปิด
- อ่านข่าว : ตร.เผยยังไม่ตั้งปมแก๊งทวงหนี้รุมตี ‘จ่านิว’รอสอบปมเห็นหน้าคนร้าย! เร่งเช็กวงจรปิด
- อ่านข่าว : “แม่จ่านิว” โวย หลังเจอกระแส แก๊งทวงหนี้รุมตีลูกชายเจ็บหนัก โต้ข่าว ออกจาก รพ.
ล่าสุดวันที่ 2 ก.ค. ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (กก.สส.บก.น.3) รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนทีมคลี่คลายคดี ว่า ได้มีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึง นายสิรวิชญ์ รวมแล้ว 4-5 ปาก ซึ่งได้ข้อมูลมากพอสมควร โดยทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันและตรงกันถึงรูปพรรณคนร้ายว่ามีการแต่งกายมิดชิด รูปร่างสันทัด แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุว่าเป็นอาวุธชนิด และวันนี้จะหาพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่ม
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนการสอบปากคำนายสิรวิชญ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวเชื่อว่ามูลเหตุของการถูกทำร้ายร่างกายในครั้งนี้เกิดจากการออกมาแสดงออกทางการเมือง แต่ก็ยังไม่ทราบตัวบุคคลและอาวุธที่ใช้ก่อเหตุที่ชัดเจน ซึ่งพนักงานสอบสวนสิ้นข้อสงสัยในประเด็นที่จะสอบปากคำนายสิรวิชญ์แล้ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ นายสิรวิชญ์ยืนยันว่าสาเหตุของการถูกทำร้ายไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ เพราะนายสิรวิชญ์ไม่มีหนี้สิน และพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว 8 ปี ซึ่งหนี้ของพ่อที่ได้ยืมจากคนรู้จักเมื่อนานมาแล้วได้มีการชดใช้คืนกันไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จากการสอบปากคำตำรวจเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ และหนึ่งในคนร้ายไม่ได้เป็นลูกน้องนักกการเมืองตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยให้นายสิรวิชญ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.พญาไทดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความอุ่นใจของครอบครัวนายสิรวิชญ์
ทั้งนี้ ทีมสืบสวนคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ขณะนี้ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปแล้วกว่า 20 ตัว ซึ่งได้ไล่กล้องวงจรปิดไปใกล้เคียงพื้นที่ย่านวิภาวดีแล้ว โดยตลอดเส้นทางที่กล้องสามารถจับภาพได้นั้น ยังไม่เห็นใบหน้าคนร้าย เพราะมีการสวมหมวกกันน็อคเต็มใบปิดบังใบหน้า แต่ยืนยันว่าภาพที่ได้จากกล้องชัดเจน ขณะเดียวกันต้องรอยืนยันเรื่องช่วงเวลาของกล้องแต่ละตัวที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน ซึ่งจะต้องนำมาเทียบเคียงเวลาให้ชัดเจนก่อน
ด้าน น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ แม่ของนายสิรวิชญ์ เปิดเผยถึงอาการของนายสิรวิชญ์ล่าสุด ว่า ขณะนี้อาการยังทรงตัว สามารถพูดจาตอบโต้กับบุคคลรอบข้างได้ ส่วนแผลที่จมูกยังคงต้องห้ามเลือด และแผลที่ตายังต้องระบายเลือดที่คลั่ง พร้อมย้ำหากนายสิรวิชญ์ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะรีบให้เดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท ที่ประเทศอินเดียทันที เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายอีก
น.ส.พัฒน์นรี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น.ของวันนี้ ตนจะเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ช่วยเร่งรัดคดีในการสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.10 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ส่งดอกไม้เข้าเยี่ยมนายสิรวิชญ์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นผู้นำมามอบให้
