จากกรณีชายฉกรรจ์ 4 คน รุมทำร้ายร่างกาย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว จนบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 109 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ก่อนมีพลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

2 ก.ค. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีการทำร้ายร่างกายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยืนยันว่านายวัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ตนอยู่กองปราบมา 10 ปี ทำงานสืบสวนสอบสวนมาไม่น้อย ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่ดูเฉพาะกล้องซีซีทีวี เพราะคนร้ายจะระวังกล้อง และขอให้ตัดประเด็นเรื่องทวงหนี้และเรื่องชู้สาวออกไปเลย เพราะฟันธงเลยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองเท่านั้น

“ทราบมาว่ามี นายตำรวจ บางคนให้ที่พักคนร้าย 2 ใน 4 คนให้พักอยู่ที่บ้าน เรื่องนี้ผมรู้หมด แต่ยังไม่อยากเปิดศึก อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตั้งใจทำคดี เพราะอำนาจมีวันเปลี่ยนมือ หากอายุความคดียังไม่หมด มีสิทธิเดินเข้าคุกได้แน่นอน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

งานนี้ถือว่าท้าทายตำรวจ หากจับคนร้ายไม่ได้ ความเชื่อถือและความศรัทธาของประชาชนจะลดน้อยลง หากพรรคเพื่อไทย ตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ ผมจะคอยป้อนข้อมูลให้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวปิดท้ายต่อกรณีนี้

ตำรวจ เผยสอบปากคำ “จ่านิว”

โดยเมื่อเช้านี้ มีรายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนทีมคลี่คลายคดี ว่า ได้มีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึง นายสิรวิชญ์ รวมแล้ว 4-5 ปาก ซึ่งได้ข้อมูลมากพอสมควร โดยทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันและตรงกันถึงรูปพรรณคนร้ายว่ามีการแต่งกายมิดชิด รูปร่างสันทัด แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุว่าเป็นอาวุธชนิด และวันนี้จะหาพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่ม

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนการสอบปากคำนายสิรวิชญ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวเชื่อว่ามูลเหตุของการถูกทำร้ายร่างกายในครั้งนี้เกิดจากการออกมาแสดงออกทางการเมือง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ นายสิรวิชญ์ยืนยันว่าสาเหตุของการถูกทำร้ายไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ เพราะนายสิรวิชญ์ไม่มีหนี้สิน และพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว 8 ปี ซึ่งหนี้ของพ่อที่ได้ยืมจากคนรู้จักเมื่อนานมาแล้วได้มีการชดใช้คืนกันไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จากการสอบปากคำตำรวจเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ และหนึ่งในคนร้ายไม่ได้เป็นลูกน้องนักกการเมืองตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ทีมสืบสวนคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ขณะนี้ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปแล้วกว่า 20 ตัว ซึ่งได้ไล่กล้องวงจรปิดไปใกล้เคียงพื้นที่ย่านวิภาวดีแล้ว โดยตลอดเส้นทางที่กล้องสามารถจับภาพได้นั้น ยังไม่เห็นใบหน้าคนร้าย เพราะมีการสวมหมวกกันน็อคเต็มใบปิดบังใบหน้า แต่ยืนยันว่าภาพที่ได้จากกล้องชัดเจน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน