อุกอาจ! คลิปเผยนาทีชายลึกลับลอบเผารถตราโล่จราจรหัวหิน เกือบวอดทั้งคัน

เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 4 เมษายน 2560 ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ให้ส่งเข้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงสนับสนุนที่เกิดเหตุ หลังพบมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ตำรวจตราโล่ หมายเลขทะเบียน ฆห 7229 กรุงเทพฯ ของกลุ่มงานจราจร สภ.หัวหิน ซึ่งจอดไว้บริเวณถนนด้านข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หลังสถานีตำรวจภูธรหัวหิน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยใช้ถังดับเพลิงฉีดพ้นสารเคมีช่วยควบคุมเพลิง ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ที่เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก วิ่งไปนำถังดับเพลิงที่อยู่ใกล้เคียงมาฉีดสกัดเพลิงได้ก่อน แต่ด้วยรถยนต์ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงเป็นแก๊ส NGV จึงอาจไม่ปลอดภัย ต้องควบคุมเพลิงได้ดับสนิทและมาปลดล็อกอุปกรณ์ของถังแก๊สออกด้วย

จากนั้น พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.(ป) สภ.หัวหิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูริต โดยชื่นงาม รอง ผกก(สอบสวน) สภ.หัวหิน รุดมาตรวจที่เกิดเหตุและรายงานให้พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สภ.หัวหิน ทราบ ก่อนสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุและใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลคนร้าย

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวซึ่งเป็นของสายตรวจจราจร สภ.หัวหิน ซึ่งเพิ่งขับไปประชุมที่ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะขับกลับมาจอดไว้บริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.

กระทั่งเมื่อเวลา 22.32 น. มีชายอายุประมาณ 30-40 ปี สูง 160-170 ซม. สวมหมวกแก๊ปสีขาว สวมเสื้อแขนสั้นสีดำมีตัวหนังสือสีขาวที่ท้ายทอย สะพายกระเป๋าด้านข้าง สวมกางเกงยีนส์ มือขวาถือผ้าผืนใหญ่มาด้วย

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวเดินมาหยุดอยู่ที่ท้ายรถยนต์จราจร ก่อนที่จะใช้ผ้าที่เตรียมมาซึ่งคาดว่าจะเตรียมการชุบน้ำมันมาด้วย แล้ววางไว้กับยางอะไหล่ของรถที่วางอยู่ด้านบนท้ายกระบะ พอจุดไฟเสร็จก็เดินลอดใต้อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ติดกัน แล้วเดินข้ามถนนไปยืนอยู่ด้านข้างธนาคารออมสินสาขาหัวหิน โดยถอดหมวกใบที่สวมใส่โยนทิ้งไว้ใต้อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วย

ชายคนดังกล่าวได้ยืนอยู่ด้านข้างธนาคารอยู่ครู่หนึ่งคล้ายยืนดูผลงานตัวเอง ก่อนจะเดินหายไป

ต่อมา พ.ต.ท.เสมอเรียกประชุมตำรวจสายตรวจ พร้อมกำชับเร่งติดตามตัวคนร้ายมาโดยเร็วที่สุด โดยแจกจ่ายข้อมูลรายละเอียดของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ พร้อมกำชับให้จับตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด