ผบ.ตร. สั่งล่าตัวมือฆ่า เศรษฐินี โบกปูนยัดตู้เย็นให้ได้! พบรถหรู-มือถือถูกขโมยไป ย้ำต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
จากกรณีพบศพ น.ส.วรรณี จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม ถูกฆ่าศพยัดตู้เย็นแล้วโบกปูน สภาพถูกมัดมือมัดขาในท่านั่งคุกเข่า ภายในตึกแถวเลขที่ 90/3 ม.3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการรื้อค้น รอยลาก ศพส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง แจ้งว่า เป็นพี่ชาย น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง ซึ่งมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง และพักอาศัยที่ตึกแถวเลขที่ 90/3 ม.3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อประมาณ 1 ปี ระหว่างอยู่ในพื้นที่จอมทอง น.ส.วรรณีใช้รถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน 9กจ-3769 กทม. เป็นยานพาหนะ
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ต.ค. น.ส.วรรณีส่งข้อความทางไลน์หา นางอารียา รัตนเสรี ซึ่งเป็นเพื่อนว่าจะไปเวียดนาม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับน.ส.วรรณีได้อีก เมื่อนายวรพันธ์ทราบเรื่องจากนางอารียา เห็นว่าผิดปกติ จึงตรวจสอบที่บ้านของน.ส.วรรณีในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่พบตัวน.ส.วรรณี จึงไปตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าภายในบ้าน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนให้ร่วมตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งได้กลิ่นเหม็นออกมาจากตู้เย็น 2 ประตูแนวนอน ซึ่งอยู่ในห้องครัวภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทอง ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บันทึกตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบศพเน่า ไม่ทราบเพศ ชื่อและสกุล สภาพสวมใส่เสื้อผ้า ถูกมัดมือไพล่หลัง มัดเท้า มัดหัว ด้วยเทปกาวพลาสติก มีถุงพลาสติกคลุมหัวนอนคว่ำหน้า ขดคุดคู้อยู่ในตู้เย็นปิดทับด้วยผงปูนซีเมนต์ แพทย์โรงพยาบาลจอมทองตรวจชันสูตรศพแล้ว จึงส่งศพไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดนิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนตัวบุคคล และตรวจเก็บพยานหลักฐานที่ศพต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า โทรศัพท์มือถือและรถยนต์เก๋งของน.ศ.วรรณีหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า น.ส.วรรณี อาจถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดฆ่าตาย อันเป็นความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น” ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องรอผลชันสูตรพลิกศพ และพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันตัวผู้เสียชีวิตให้แน่ชัดต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับพนักงานสอบสวนมาให้สอบสวนด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว สิ้นกระแสความในทุกประเด็นที่มีข้อสงสัย คำถามหรือเงื่อนงำต่างๆ ในคดี โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องตอบคำถามข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน
สำหรับประเด็นการฆาตกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และแนวทางในการติดตามจับผู้ต้องหานั้น ต้องดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ซึ่งในชั้นนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก
