เหยื่อ แชร์ฟอร์เร็กซ์ เทพริก-เกลือสาปแช่งซีอีโอบริษัท แฉมีดาราเอี่ยวลงทุน จี้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แฉมีดารานักแสดงถ่ายรูปกับซีอีโอบริษัท แฟนคลับบางคนเลยลงทุนตาม เชื่อมีดาราเป็นเหยื่อด้วย แต่ไม่กล้าเผยตัว

แชร์ฟอร์เร็กซ์ / เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม นำผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ฟอร์เร็กซ์ 3 ดี (Forex-3 D) เพื่อขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเนื่องจากเป็นคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าแชร์แม่มณีและมีวงเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านบาท พร้อมนำพริกเกลือแสดงเชิงสัญลักษณ์สาปแช่งซีอีโอบริษัท

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายรณรงค์ เปิดเผยว่า แชร์ฟอร์เร็กซ์มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายมากกว่าแชร์แม่มณีหลายเท่าตัว มีผู้เสียหายในต่างประเทศและต่างจังหวัด อยากขอให้ดีเอสไอออกคิวอาร์โค้ดให้ได้ลงทะเบียน และพฤติกรรมก็สลับซับซ้อน ไม่ใช่การโอนเงินผ่านแอพลิเคชั่นเคชั่นของธนาคาร แต่เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลธรรมดาของคนในบริษัท และต้องเข้าไปตรวจสอบผลกำไรจากโปรแกรมของบริษัท อีกทั้งการถอนเงินปันผลต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทตามปกติ โดยบริษัทจะโอนเงินเข้าบัญชีหลังตั้งเรื่องขอเบิกเงินปันผลไม่เกิน 7-8 วัน ปรากฏว่าตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาไม่สามารถเบิกถอนเงินได้

นอกจากนี้ กลุ่มผู้เสียหายยังนำพริกกับเกลือและรูปของซีอีโอบริษัท ที่เคยร่วมทำกิจกรรมกับดารานักแสดงหลายคน มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการสาปแช่ง กดดันให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมระบุว่าถ้าดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษผู้เสียหายจะมาระบายความเครียดที่หน้ากรม

นายรณรงค์ เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบหน้าเพจเว็บไซค์ของบริษัทพบว่ามีสมาชิก 3 หมื่นราย มีเงินลงทุนหมุนเวียนกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทเสนอเงินปันผลให้ร้อยละ 10 ต่อเดือนของเงินลงทุน ทำให้มีผู้หลงเชื่อลงทุนขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท ดีเอสไอควรพิจารณารับเป็นคดีพิเศษอย่างรวดเร็ว เพราะคดีนี้เข้าร้องทุกข์ก่อนแชร์แม่มณี

อีกทั้งเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน มีการโอนเงินและการกระทำผิดบางอย่างเกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบหลักฐานได้ด้วยวิธีการปกติ จำเป็นต้องเรียกร้องให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจอะไร มีกำไรและเสียภาษีอย่างไร จึงเสนอเงินปันผลได้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด

ในส่วนของดาราที่ปรากฏภาพถ่ายรูปร่วมกับซีอีโอบริษัท ตนไม่ทราบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับแชร์ฟอร์เร็กซ์หรือไม่ แต่ควรจะออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้บริหารหรือถูกจ้างให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งแฟนคลับบางคนนำเงินไปลงทุนในแชร์ฟอร์เร็กซ์ เพราะลงทุนตามดาราที่ชื่นชอบ และน่าเชื่อว่าดาราและคนมีสีบางคนอาจเป็นผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนด้วย แต่ไม่กล้าออกมาเปิดเผย

หนึ่งในผู้เสียหาย น.ส.พี กล่าวว่า มีคนรู้จักชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์ฟอร์เร็กซ์ จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนเห็นว่าได้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ก็คิดว่าไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะบริษัทเปิดกิจการมาแล้ว 4 ปีแล้ว จึงลงทุนครั้งแรกด้วยเงินขั้นต่ำ 5 หมื่นบาทในเดือนเม.ย.62 และได้รับเงินปันผลจริง โดยจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ จึงลงทุนเพิ่มรวมทั้งสิ้น 6 หลัก แต่ได้รับเงินปันผลแค่ 2 ครั้ง เมื่อสอบถามไปทางบริษัทแอดมินตอบกลับมาว่าระบบจ่ายเงินปันผลจะเสร็จในเดือนก.ค. แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ และติดต่อผู้บริหารบริษัทไม่ได้

กระทั่งบริษัทติดต่อนัดผู้เสียหายรับเงินวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่กลุ่มผู้เสียหายเกรงว่าจะเป็นการให้เงินบางส่วนเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายมาแจ้งความ จึงไม่ได้เข้าไปรับเงิน ส่วนที่มีดาราเกี่ยวข้องกับแชร์ฟอร์เร็กซ์นั้น ตนเห็นแค่รูปดาราที่ถ่ายกับซีอีโอของบริษัท แต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องเป็นหุ้นส่วนของบริษัทหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ต.ค. มีดาราหลายคนเข้ามาในกลุ่มไลน์ของผู้เสียหาย เมื่อสอบถามไปทราบว่ากลุ่มดาราก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันและได้รับเงินคืนแล้ว

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในส่วนของแชร์ฟอร์เร็กซ์ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดีแชร์แม่มณี ขณะนี้มีผู้เสียหายได้ลงทะเบียนร้องทุกข์กล่าวโทษยอดรวม 2 วัน (30-31 ต.ค.) มีทั้งสิ้น 2,977 คน วงเงินเสียหายรวม 860,738,393.95 บาท

ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ตนจะเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อลงนามในบันทึกความร่วมมือในการสอบสวนคดีแชร์แม่มณี โดยหลังจากนี้ตำรวจจะทยอยส่งสำนวนหลักฐานพร้อมผู้เสียหายให้ดีเอสไอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน