ตำรวจคุมตัวมือฆ่าโหด นายหน้ารับต่อวีซ่า ชาวจีน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยปมสังหารเหี้ยม ผู้ต้องหาปัดฆ่าคนตายโดยเจตนา เตรียมส่งศาลฝากขังพร้อมค้าประกัน

จากกรณีพบศพ นายฟาง ยางเซิน อายุ 54 ปี สัญชาติจีน นายหน้าต่อวีซ่าให้นักท่องเที่ยว ถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายแห่งตามร่างกาย นั่งเสียชีวิตบนเก้าอี้ ภายในห้องพักเลขที่ 1-4 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กทม. โดยที่ห้องน้ำพบมีดพกตกอยู่ในอ่างพร้อมคราบเลือด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร สามารถจับกุม นายเจอ ขาน อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุ ขณะหนีไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพระราม 9 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 25 พ.ย. ที่สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายเจอ ขาน ผู้ต้องหาในคดีฆ่า นายฟาง ยางเซิน เพื่อนร่วมชาติชาวจีน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยนายเจอ ขาน ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บและต้องใส่เฝือกที่แขนทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการต่อสู้กับผู้ตาย

สำหรับชนวนเหตุเกิดจากผู้ต้องหาเป็นอดีตตำรวจที่จีน แต่ลาออกมาเพื่อทำธุรกิจร้านอาหารตามประเทศต่าง ๆ จนมาประเทศไทยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาได้หาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ตจนพบว่าผู้ตายรับทำหน้าที่ต่อวีซ่าแล้วยังรับแลกเงินด้วย จึงได้มีการนัดพบกันเพื่อจะให้ผู้ตายทำเรื่องต่อวีซ่าและแลกเงินจำนวน 60,000

คุมตัวผู้ต้องหาชาวจีน (เสื้อสีแดง) ทำแผนปมฆ่าโหด นายหน้ารับต่อวีซ่า

คุมตัวผู้ต้องหาชาวจีน (เสื้อสีแดง) ทำแผนปมฆ่าโหด นายหน้ารับต่อวีซ่า

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ได้เสิร์ชดูกูเกิ้ลจนเจอผู้ตายว่ารับทำหน้าที่ต่อวีซ่าแล้วยังรับแลกเงินด้วย จึงได้นัดพบผู้ตายเพื่อให้ทำเรื่องต่อวีซ่าให้และให้แลกเงินจำนวน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเงินไทยจำนวน 1.8 ล้านบาท ระหว่างอยู่ที่ไทยก็ได้ไปกินเที่ยวกับผู้ตายจนเกิดความสนิทสนมกัน แต่ผู้ตายก็ยังไม่แลกเงินจำนวนดังกล่าวให้ กระทั่งผ่านไป 2 สัปดาห์

โดยวันเกิดเหตุนายเจอ ขาน ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และทวงถามเรื่องเงินที่ฝากแลกไว้ แต่นายฟาง ยางเซิน ได้เปิดลิ้นชักให้ดูว่ามีเงินอยู่ 1 ล้านบาท โดยยังขาดอีก 8 แสนบาท พร้อมทั้งขอให้ผู้ต้องหารอเพราะจะมีคนโอนเงินมาให้ ซึ่งผู้ต้องหาได้รอตามที่ผู้ตายบอก และได้ออกไปสูบบุหรี่หลายครั้ง แต่ผู้ตายก็ไม่ยอมเอาเงินให้สักที จึงได้เดินเข้าไปสอบถามอีกรอบ

จากนั้น ได้มีปากเสียงกับผู้ตายที่บอกว่า “ถ้าเรื่องมากก็ไม่ต้องเอาเงินคืน” ซึ่งผู้ต้องหาพยายามจะเอาเงินของตัวเองที่แลกไว้ 1 ล้านบาทที่อยู่ในลิ้นชักคืน แต่ผู้ตายหยิบมีดมาฟันแขนจนเกิดการต่อสู้กันจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นำเงิน 1 ล้านบาทใส่กระเป๋า แล้วปิดไฟในห้อง ก่อนจะกลับไปที่พักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเสียค่ารักษาไป 1 แสนบาท กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยอ้างว่า เกิดความโมโหจากการทะเลาะกับผู้ตาย ไม่ได้ตั้งใจฆ่า เพราะหากตั้งใจจริงจะเอามีดทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุทำไม อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งศาลพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีโทษสูงและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน