หนุ่มเมากาวจี้สาวสองพี่น้องชิงทรัพย์ฉุดเข้าห้องน้ำหมายข่มขืนริมเขาพระตำหนัก ตร.ระดมกำลังออกล่าสุดท้ายบุกรวบตัวได้พร้อมของกลาง เผยพื้นที่เกิดเหตุเป็นจุดเสี่ยงชาวบ้านร้องเรียนต่อเนื่องมั่วสุมค้ากาม

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนรับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์และพยายามจะข่มขืนหญิงสาว บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก ใต้สะพานต่างระดับทางไปท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายเป็นหญิงสาวจำนวน 2 คน ทราบชื่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ยืนรอตำรวจอยู่ในสภาพมีอาการหวาดผวาตื่นกลัว โดยหลังตั้งสติได้ จึงให้การว่าก่อนเกิดเหตุขณะน.ส.เอ กำลังยืนรอน.ส.บี น้องสาว ที่ไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นเพิงสังกะสีที่คนจรสร้างทิ้งไว้ที่ริมเชิงเขาพระตำหนัก

มีชายไทยอายุประมาณ 30 ปี ท่าทางคล้ายคนเมายาเดินเข้ามาประกบ พร้อมกับชักอาวุธมีดปลายแหลมออกมาข่มขู่น.ส.เอ จึงวิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียง จากนั้นคนร้ายจึงตรงเข้าไปพังประตูห้องน้ำ ก่อนบุกเข้าใช้อาวุธมีดขู่บังคับชิงโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง ของน.ส.บีซึ่งอยู่ภายใน อีกทั้งยังบังคับให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อหวังจะข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.บีจึงขัดขืนพร้อมร้องตะโกนเสียงดัง กระทั่งมีชาวบ้านวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหลบหลบหนีไปบนเชิงเขาพระตำหนักได้อย่างหวุดหวิด หลังเกิดเหตุจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบทันที

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังกันออกค้นหาตัวคนร้าย กระทั่งไปพบชายต้องสงสัยลักษณะรูปพรรณใกล้เคียงกับข้อมูลที่ผู้เสียหายให้ไว้ กำลังนั่งดมสาระเหย อยู่บริเวณพื้นที่รกร้างเชิงเขา จึงเข้าทำการจับกุม ทราบชื่อคือนายบูรพา สุชาติ อายุ 32 ปี ตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้าย

จากการสอบสวน นายบูรพา ให้การอ้างว่า มีอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยใช้พื้นที่รกร้างบริเวณเขาพระตำหนักไปที่พักพิงและอาศัย โดยก่อนเกิดเหตุพบหญิงสาวกำลังรอต่อคิวเข้าห้องน้ำจึงใช้ไม้แหลมห่อ หุ้มด้วยผ้าลักษณะคล้ายอาวุธมีดบุกเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ และพยายามข่มขืนเลยวิ่งหลบหนีไปซ่อนตัว สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมดังกล่าว

ข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า บริเวณจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่สวนสาธารณะ บริเวณเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่มั่วสุม และค้าประเวณีของกลุ่มรักร่วมเพศ กระทั่งมีการนำเสนอข่าวและร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเมืองพัทยาจึงได้เข้าไปบูรณะด้วยการเก็บกวาด และติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่ม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบเฝ้าระวังเหตุ แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

จึงอยากฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปจัดการบูรณาการพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายจุดบนเขาพระตำหนักมีกลุ่มเร่ร่อนสร้างเพิงพักกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเสี่ยงต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนและออกกำลังกายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน