กรณีจับกุม น.ส.นิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ชาว กทม. หลังพบพฤติกรรมต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับทำให้ด.ช.อิ่มบุญ อายุ 2 ขวบ บุตรแท้ๆ ป่วย และ ด.ญ.อมยิ้ม อายุ 4 ขวบ บุตรบุญธรรม เสียชีวิต เพื่อสร้างเรื่องหวังเงินบริจาคตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 3 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. ได้นำหลักฐานขวดยา และภาชนะบรรจุสารเคมีบางอย่างที่ตรวจพบจากภายในบ้านพักของน.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก รวมทั้งหมด 15 ขวด ส่งตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์

เบื้องต้นมีรายงานว่า ผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสารเคมีจากทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า เป็นยารักษาอาการป่วยทั่วไปจำนวน 14 ขวด ส่วนอีก 1 ขวดนั้นเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นเบสระดับความเข้มข้นอยู่ที่ 0.68 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูง และเป็นอันตรายต่อร่างกายหากรับประทานเข้าไป เพราะจะส่งผลให้อวัยวะภายในถูกทำลายจากการกัดกร่อนของสารเคมีตัวดังกล่าว

ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงบนขวดยาทั้ง 15 ขวดนั้น เบื้องต้นไม่พบลายนิ้วแฝงของน.ส.นิษฐา หรือบุคคลอื่นๆในครอบครัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้กังวล เนื่องจากขวดยาที่ส่งตรวจนั้น ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก ทำให้การตรวจหาลายนิ้วมือแฝงต่างๆจึงค่อนข้างยาก

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน น.ส.นิษฐา ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เงินบริจาคจำนวนมากหายไปไหน นั้นมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก เหลือเพียงบางส่วนที่ยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ และมีบางส่วนที่ยังต้องรอหนังสือหลักฐานจากทางธนาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบดังกล่าว ทำให้พบว่า ส่วนใหญ่แล้วน.ส.นิษฐา มักจะโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายที่จับได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี

แต่ก็พบอีกว่า ยังมีเงินบางส่วนถูกนำใช้เล่นพนันออนไลน์ จำนวนหลักหมื่นบาท หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนี้มาใช้ประกอบสำนวนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน