น้องชายอดีตที่ดินพังงาเข้าขอบคุณผบช.น.ช่วยเรื่องคดี ด้านผบช.น.แนะให้แจ้งความที่สน.ทุ่งสองห้อง หลังอัยการส่งสำนวนถึงพนักงานสอบสวน หลังศาลมีคำสั่งมีบุคคลอื่นทำให้ตาย เตรียมหารือทนายความว่าจะฟ้องดีเอสไอหรือไม่

จากกรณีที่ศาลนัดฟังคำสั่งการขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนอุทยานแห่งชาติกว่าพันแปลง ที่เสียชีวิตภายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 30 ส.ค.59 ศาลมีคำสั่งแล้วว่านายธวัชชัยเสียชีวิต เพราะมีบุคคลอื่นทำให้ตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ศาลชี้“ที่ดินพังงา”-มีคนอื่นทำให้ตาย ตร.รู้แล้ว ฝีมือใคร จ่อข้อหา แต่พบว่า ไร้เจตนา

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่บช.น. นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย เดินทางเข้าพบพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เพื่อมาขอบคุณที่จะเร่งรัดคดีและหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายทางคดี

นายชัยณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาพบพล.ต.ท.ศานิตย์ ตั้งใจว่าจะเดินทางมาขอบคุณผบช.น.เรื่องคดี และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรได้บ้าง โดยพล.ต.ท.ศานิตย์แนะนำให้ตนไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สน.ทุ่งสองห้องไว้ก่อน ภายหลังจากสำนวนมาถึงพนักงานสอบสวนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่ได้ประสานการช่วยเหลือหรือดำเนินการเกี่ยวกับทางคดีตั้งแต่เมื่อ 10 เดือนที่แล้ว การประสานงานค่อนข้างลำบากส่งหนังสือไป 3-4 เดือน ถึงตอบกลับ หรือไม่ตอบเลย

เมื่อถามว่า จงใจมีเจตนาปกปิดข้อมูลหรือไม่ นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ต้องถามประชาชนที่สนใจในข่าวนี้ดูว่าคิดอย่างไร ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปพบพ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อพูดคุยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อถามถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ของเจ้าหน้าที่ที่นำเอามหาวิทยาลัยทางการแพทย์มาร่วมตรวจสอบ นายชัยณรงค์ กล่าวว่า คิดว่าเนื้อหาเริ่มต้นของรายงานและการตรวจพิสูจน์ในการชันสูตรพลิกศพพบร่องรอยที่คอหรือเลือดที่ออกในช่องท้องบ้าง แต่ในส่วนของรายงานเป็นการสรุปบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 3 นาย มีการกระทำผิดวินัย ข้อมูลดังกล่าวเป็นการตรวจพิสูจน์หรือการสอบวินัย ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอให้ถามประธานคณะกรรมการการตรวจสอบที่เป็นผู้รู้ข้อมูลมากที่สุด

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้เริ่มมีความหวังมากขึ้นหรือยัง นายชัยณรงค์ กล่าวว่า เริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ภายหลังจากที่เดินทางมาที่บช.น. ส่วนจะแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือไม่ ต้องขอปรึกษาพล.ต.ท.ศานิตย์ ว่าสามารถดำเนินการอย่างไรได้มากแค่ไหน

ส่วนจะยื่นฟ้องร้องดีเอสไอต่อศาลเองหรือไม่ ต้องปรึกษาทนายความก่อน แต่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ยืนยันพยานหลักฐานขณะนี้ บ่งชัดถึงผลการตรวจจากผลการชันสูตรพลิกศพ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) ชัดเจนมาก อีกทั้งในคำสั่งศาลระบุชัดว่า ไม่มีใครสามารถที่จะทำตัวเองได้

ส่วนผลตรวจของนิติเวชรพ.ตร.กับกระทรวงยุติธรรม สอดคล้องในเรื่องของผลการตรวจแต่ไม่สอดคล้องกับคำสั่ง ทั้งนี้ ต้องรอคำสั่งศาลกลับมาที่สน.ทุ่งสองห้องก่อน อัยการจะให้เพิ่มอย่างไรต้องดูรายละเอียดที่พนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนมีความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่คนไหนมีส่วนเกี่ยวข้อง ยังระบุไม่ได้ไม่กล้าระบุ

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางนายชัยณรงค์อยากจะเข้าพบตน โดยตนเองก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อความสบายใจของทุกคนไม่เลือกปฏิบัติ และขอความร่วมมือในการคลี่คลายเรื่องนี้ให้กระจ่าง อยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจ เพราะกฎหมายมีไว้สำหรับทุกคน

ส่วนร่องรอยต่างๆนั้น รายละเอียดทางสำนวนตนขอไม่พูด เนื่องจากต้องดูรายละเอียดของคำสั่งศาล พร้อมทั้งสำนวนชันสูตรพลิกศพก่อน ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นเรื่องงานด้านธุรการตำรวจท่านสั่งไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า ผู้ตายสาเหตุเกิดจากมีผู้อื่นทำให้ตาย ก็ต้องทำการพิสูจน์ทราบ ผลการสอบสวนว่าใครทำให้ตาย ถ้าเป็นคนทั่วไปทำก็เข้าสู่กระบวนการทั่วไปในการร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ถ้าเป็นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ ก็มีอยู่ 2 ส่วน คือถ้าเป็นข้าราชการระดับซี 8 ขึ้นไปส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ

อีกส่วนถ้าต่ำกว่าซี 8 ลงมา ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในการส่งไปให้หน่วยงานเหล่านั้น พนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุต้องรวบรวมหลักฐานเบื้องต้นส่งไปที่หน่วยงานดังกล่าว และประสานการปฏิบัติต่อไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าในทุกๆ เรื่องจะพยายามให้เกิดความเป็นธรรม ทำให้ทุกฝ่ายมีการดำเนินการอย่างชัดเจน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน