วันที่ 2 ต.ค. ที่สโมสรตำรวจ ในการแถลงสรุปความคืบหน้าคดี น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งได้หายออกจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาพบศพบริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพัก 5 กิโลเมตร ในวันที่ 14 พ.ค. แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าใครเป็นคนทำ โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นำทีมแถลงความคืบหน้าคดีหลังเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ โดยระบุก่อนหน้าว่าคดีคืบหน้า 99 % และผู้ทำคือคนใกล้ชิดน้องชมพู่มากๆ

ในการแถลงพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากการสรุปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องเวลาที่เกิดเหตุคือ ระหว่าง 09.11-09.49 น. อ้างอิงจากดูคลิปวิดีโอในโน้ตบุ๊ก ที่น้องชมพู่เปิดดูเป็นคลิปสุดท้าย และเวลา 09.49 น. ซึ่งเป็นเวลาที่พี่สาวเลิกใช้เฟซบุ๊ก จึงยืนยันว่าหายตัวไปในช่วงเวลาดังกล่าว

เวลาการเสียชีวิต
แพทย์ชันสูตรสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิต ระหว่างเวลา 14.30 น. วันที่ 12 พ.ค. กับ เวลา 14.30 น.วันที่ 13 พ.ค. และจากการสอบปากคำนักกีฏวิทยา ที่พบหนอนในศพน้องชมพู่ ในการชันสูตรวันที่ 15 พ.ค. หนอนอยู่ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย คาดว่าเสียชีวิต 3 วัน เมื่อนับย้อนไปคือวันที่ 12 พ.ค. อยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับที่แพทย์สันนิษฐานไว้

เมื่อเทียบกับการเน่าของเนื้อหมูบริเวณภูเขา จากการจำลองพบว่ามีอัตราเร่งมากกว่าปกติ เมื่อนำมาวิเคราะห์ การเจริญเติบโตของหนอนมีเวลา 33 ชั่วโมง ทำให้พบว่าน้องชมพู่ น่าจะเสียชีวิตช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. เวลา 14.30 น.ไปจนถึงวันที่ 13 พ.ค. เวลา 14.30 น.

สาเหตุการเสียชีวิต
ไม่พบบาดแผลใดๆ ที่นำไปสู่การเสียชีวิต และไม่พบร่องรอยการกระทำอนาจารทางเพศ แต่แพทย์สันนิษฐานว่า อาจเสียชีวิตจากการขาดน้ำ เพราะเนื้อผิวหนังแห้งน้อยกว่าภายใน สาเหตุจากการขาดน้ำ ทำให้มีการเน่าน้อยกว่า และยังไม่พบอาหารในกระเพาะ แต่พบของเหลวในกระเพาะ ซึ่งคาดว่าเป็นการเน่าของศพ จึงไม่ยืนยันว่าของเหลวที่พบคืออาหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน