เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.63 ที่ห้าแยกลาดพร้าว การชุมนุม “ไล่จันทร์โอชาออกไป” นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ปราศรัยว่า วันนี้ตนได้ไปฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจ แต่นี่จะเป็นการยิ่งสร้างบรรทัดฐานใหม่ว่า การเป็นข้าราชการการเมือง ถ้ารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานราชการ ซึ่งออกระเบียบโดยถูกกฎหมาย ต่อไปนี้ถือว่าไม่ผิด

การตัดสินในวันนี้ การไปอยู่บ้านพักข้าราชการ คือการรับประโยชน์หรือทรัพย์สินอื่นใด ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องถามศาลหรือนักกฎหมายที่ไหน คนปกติก็คิดได้ว่านี่คือการรับประโยชน์ เมื่อคุณสร้างบรรทัดฐานแบบนี้ ทำลายหลักกฎหมายเพื่อการดำรงอยู่ของคนๆเดียว

ต่อจากนี้สถาบันตุลาการเองก็จะถูกเรียกร้องให้มีการปฏิรูปด้วยเช่นกัน แล้วไม่ต้องมาแสดงอำนาจบาดใหญ่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ หรืออ้างว่าให้วิจารณ์แบบวิชาการเท่านั้น เพราะมันหมายความว่าคนที่ไม่ใช่นักวิชาการไม่มีสิทธิวิจารณ์

นี่คือปัญหาหลักอำนาจนิยมในสังคมไทย มาวันนี้คนรุ่นใหม่กำลังสั่นคลอนความคิดเหล่านี้ วันนี้เราชุมนุมกันบ่อยครั้ง ข้อเสนอทั้งหมดยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่า ทุกๆข้อต้องถูกเรียกร้องให้ถึงที่สุด ปัญหาหลักที่มาจากการอนุมานสมมติให้มีบางสิ่งบางอย่างแตะต้องไม่ได้ การอนุมานว่าครูสอนอย่างไรก็ถูก เถียงไม่ได้ ก็คือหลักการเดียวกัน ไม่เช่นนั้นคำสรรเสริญเยินยอก็จะเป็นแค่การโกหกไปวันๆ

“และช่วยออกแถลงการณ์ว่า ภาพสุภาพสตรีที่มีลายธงชาติปิดหน้าในการชุมนุมกลุ่มกปปส.ว่าเป็นใคร ใช่ท่านหรือไม่ ตกลงท่านสนับสนุนรัฐประหารหรือไม่ ช่วยออกมาตอบคำถามหน่อย เพราะเราไม่สบายใจ”

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า เราไม่คิดว่าการชุมนุมของเรามาได้ไกลขนาดนี้ เราเหมือนจะแพ้ ทั้งถูกฉีดแก๊สน้ำตา โดนดำเนินคดี แต่เรายังอยู่ตรงนี้ เราไม่กลัว การต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งประชาธิปไตยของเราตอนนี้เป็นเพียงขั้นแรก แค่นวดให้เห็นแผล ซึ่งปีหน้ารูปธรรมจะเข้มข้นกว่านี้ ถ้าอยากรังแกเรา สั่งแก๊สน้ำตาเพิ่มได้เลย ปีหน้ายืนยันว่าบวกเป็นบวก แต่ยังคงอยู่บนหลักการสันติวิธี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน